ประเด็นน่าสนใจ
- ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่
- สาเหตุที่ต้องย้ายเมืองหลวง เนื่องจากกรุงจาการ์ตา ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบันประสบปัญหาหลายประการ
- การย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ ใช้งบประมาณมากกว่า 1 ล้านล้านบาท
เมื่อเดือนสิงหาคม รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่ หลังจากกรุงจาการ์ตามีสภาพแออัด และเสี่ยงต่อการจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องมาจากปัญหาแผ่นดินทรุดตัว และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
ทั้งนี้พื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากข้อมูลของ World Economic Forum ระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำลึกกว่า 2.5 เมตร ซึ่งมีต้นเหตุมาจากปัญหาโลกร้อนและปัญหาแผ่นดินทรุดตัว ในอัตราเฉลี่ย 10 เซนติเมตรต่อปี
โดยการขาดระบบน้ำประปาที่ครอบคลุม รวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ และครัวเรือน ที่ขุดบ่อน้ำบาดาลใช้เอง ยิ่งทำให้ปัญหาแผ่นดินทรุดตัวรุนแรงขึ้น
เนอร์โวโน โจกา ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองจากมหาวิทยาลัยตรีสักตี กล่าวว่า ราว 40% ของพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา มักเกิดปัญหาแผ่นดินทรุดตัวตามธรรมชาติ แต่การพัฒนา เช่นการสร้างอาคาร ท่าเรือ อุตสาหกรรม และถนน ยิ่งทำให้พื้นดินต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น ประกอบกับการลักลอบขุดบ่อบาดาล ยิ่งทำให้การทรุดตัวดังกล่าวรุนแรงขึ้น
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ประกาศเร่งการก่อสร้างกำแพงยักษ์กั้นคลื่นโดยรอบกรุงจาการ์ตา เพื่อป้องกันเมืองหลวงแห่งนี้ไม่ให้จมน้ำ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า พื้นที่ 1 ใน 3 ของกรุงจาการ์ตา จะจมอยู่ใต้น้ำภายในปี 2050
โครงการดังกล่าวซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ช่วง เริ่มจากการปรับปรุงแนวกำแพงเดิม ความยาว 30 กิโลเมตร ให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น การสร้างเกาะเทียม 17 เกาะ และตามด้วยการสร้างกำแพงยักษ์ทางตะวันออกและตะวันตกของอ่าวจาการ์ตา
หนึ่งในพื้นที่ที่เผชิญความเสี่ยงนี้ คือเขตมูอารา บารู ย่านที่อยู่อาศัยของคนยากจน แม้จะมีการสร้างกำแพงคอนกรีตกั้นน้ำทะเล เริ่มปรากฏรอยร้าวให้เห็นได้ทั่วไป น้ำที่รั่วซึมส่งผลให้ถนนที่สร้างเลียบแนวกำแพงเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง
เมื่อเดือนสิงหาคม รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่ไปยังจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าฝนและสัตว์ป่า
ทั้งนี้ เมืองหลวงซึ่งยังไม่มีการตั้งชื่อแห่งนี้ จะตั้งอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางของประเทศ รวมถึงมีโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนรองรับอยู่แล้ว เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างเมืองบาลิกปาปัน และซามารินดา