“บิ๊กตู่” ไม่แคร์ 7 พรรคฝ่ายค้านแจ้งความจับ

ประเด็นน่าสนใจ

ที่ ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ที่ ตึกบัญชาการ 1 แล้ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านแจ้งความเอาผิดในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.

ก่อนหน้านี้พลตรีบุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความเอาผิดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านและนักวิชาการ รวม 12 คน จากการเปิดเวทีรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จังหวัดปัตตานี ตามมาตรา 116 ฐานความผิด ความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร นั้น พลเอกประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามใด ๆ และเดินเข้าไป ชมกิจกรรมของกระทรวงต่าง ๆ ที่มาประชาสัมพันธ์

จากนั้น พลเอกประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ประเพณีไหลเรือไฟวิถีไทย วิถีถิ่นและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2562 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ร่วมฟ้อนกับคณะนางรำ และก่อนที่จะชมนิทรรศการวิถีไทย วิถีถิ่นกฐิน ปลอดเหล้า ที่มารณรงค์งดเหล้าทุกวันพระถวายเป็นพระราชกุศล ให้ลดละเลิกเหล้าให้ได้ ในเดือนพิเศษ 13 ตุลาคม

จึงอยากให้สืบสานคำพ่อสอน ซึ่งเด็กที่มารณรงค์ได้อ่านจดหมายที่เขียนถึงพ่อตนเองขอให้พ่อเลิกเหล้า ให้กับนายกรัฐมนตรีฟังพร้อมสวมกอด โดยนายกรัฐมนตรีระบุ ว่า ขอให้สังคมมีความสุขสงบ มีรอยยิ้มให้ศาสนาชี้นำ ขอให้ประชาชนลดละเลิกเหล้า บุหรี่ ในวันพระ หรือวันสำคัญ เพราะไม่อยากให้เสียป่วยอายุสั้น เงินเปล่า ซึ่งป่วยมาก็ต้องเสียงเงินรักษา โรคเหล่านี้เป็นแล้วตายช้าทรมาน

ขณะเดียวกันระหว่างชมกิจกรรม “Digital Thailand Big Bang 2019” มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา ซึ่งเป็นการชูนวัตกรรมหุ่นยนต์ นายกรัฐมนตรีแนะนำเด็กและเยาวชน ว่า สนใจในเรื่องที่มีประโยชน์ อะไรที่ไม่มีประโยชน์อย่าไปสนใจกับมันมาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยกับผู้จัดงานที่นำหุ่นยนต์ตัวอย่างที่จะใช้ในบ้านมานำเสนอ ว่า ควรใส่นโยบายและข้อมูลต่าง ๆ ของรัฐบาลไปในหุ่นยนตร์ที่นำมาโชว์ด้วย เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจทำ

ขณะเดียวกัน การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ได้เลื่อนมาจากวันอังคาร (8 ตุลาคม 2562) เนื่องจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะต้องพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ของแต่ละกระทรวงที่ปรับให้เข้ากับยุทธศาสตร์ 7 ด้าน เช่นยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 4.28 แสนล้าน / ยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.8 แสนล้านบาท / การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 5.7 แสนล้านบาท /และการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 7.66 แสนล้าน ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 17 ตุลาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีการหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการชิมช็อปใช้ เพื่อให้ประชาชนใช้งานง่ายขึ้นหลังมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงหารือรายละเอียดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมส่งมอบพื้นที่จัดทำโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะต้องลงนามสัญญาร่วมลงทุนภายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้