“นพเก้า” ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์พิการซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณทรงเมตตา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ต.วีระพันธ์ ภูวจินดา อัญเชิญพระราชกระแสชมเชย “ช่างเก้า” ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ที่พิการแต่สู้ชีวิตหาเลี้ยงครอบครัวอย่างไม่ย่อท้อ เจ้าตัวซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีพระเมตตา
วานนี้ (4 ต.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ต.วีระพันธ์ ภูวจินดา อัญเชิญพระราชกระแสพระราชทานชมเชยแก่ นายนพเก้า นาแป้น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 หมู่ 5 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน อ.โพธาราม โดยมีนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมเหล่าจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าร่วมพิธี ทั้งนี้โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งขึ้น เพื่อสานต่อพระราชปณิธานในการทำดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน และสร้างจิตสำนึกที่ดีให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนทุกคนที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวมนั้น
พล.อ.ต.วีระพันธ์ ได้อัญเชิญพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมเชยนายนพเก้า นาแป้น ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ซึ่งเกิดมามีร่างกายเพียงครึ่งบนว่า “ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารที่น่าชื่นชม นายนพเก้า ได้ต่อสู้ชีวิตโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทางร่างกาย มีความขยันหมั่นเพียรมุมานะ สามารถเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตนเอง มีพลังพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ ทำให้สังคมเชื่อมั่นในศักยภาพพร้อมเปลี่ยนมุมมองความคิด และชื่นชมในความสามารถ อีกทั้งเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ เป็นผู้มีทัศนคติที่ดี มองโลกในเชิงบวก ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ถือได้ว่าเป็นยอดนักสู้ ผู้ฟันฝ่าเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เป็นตัวอย่างอันดีในการต่อสู้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติ ควรได้รับการยกย่องชมเชยให้เป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไป”
ด้านนายนพเก้า หรือช่างเก้า ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีพระเมตตา ทุกวันนี้ยังคงยึดอาชีพช่างซ่อมรถจักรยานยนต์หาเลี้ยงชีพ โดยมีลูก 2 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ส่วนนางระเบียบ เรืองพยัคฆ์ อายุ 56 ปี ภรรยาคู่ชีวิต กล่าวเสริมว่า ชอบที่สามีเป็นคนสู้ชีวิต จึงไม่รังเกียจและได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 10 ปีแล้ว โดยครอบครัวต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อสามีและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
ขณะเดียวกัน นายชยาวุธ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ร่วมพูดคุยกับนางสำเนียง นาแป้น อายุ 90 ปี มารดาของช่างเก้า ได้ความว่าช่างเก้ายังทำงานเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ในตำบลบ้านสิงห์ อ.โพธาราม โดยช่างเก้าเดิมจบการศึกษาเพียงระดับประถมศึกษาปีที่ 2 แต่ทุกวันนี้มีรายได้ประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ส่วนนางระเบียบภรรยา มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ประมาณ 1,500 บาท ที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้ช่วยกันดูแลเลี้ยงลูกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม นอกจากนี้ทางครอบครัวยังมีจิตใจงดงามคอยช่วยเหลือสังคมตามกำลังที่ทำได้อยู่เสมอ อีกทั้งยังชักชวนเพื่อนๆ เข้าร่วมสมัครเป็นจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ให้สังคมและส่วนรวมต่อไป