สาวนั่งดริ้งค์ สาวลาวนั่งดริ้งค์

ตำรวจเผย ขั้นตอน! ส่งสายลับ จับสาวลาวนั่งดริ้งค์

สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แถลงข่าวจับสาวลาว ค้ามนุษย์ในรูปแบบลามกอนาจาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า คดีนี้เกิดจากการสืบสวนหาข่าวของชุดสืบสวน บก.ตม.1 ในการตรวจสอบสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ว่า ร้านสบายดีคาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ถนนกําแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง…

Home / NEWS / ตำรวจเผย ขั้นตอน! ส่งสายลับ จับสาวลาวนั่งดริ้งค์

ประเด็นน่าสนใจ

  • ตำรวจพบร้านคาราโอเกะ ค้ามนุษย์ในรูปแบบลามกอนาจาร เด็กสาวนั่งดริ้งค์อายุ ไม่เกิน 18 ปี คอยนั่งให้บริการแก่ลูกค้า
  • ตำรวจได้ทำการล่อซื้อ ส่งสายลับเข้าไปใช้บริการ
  • ผู้ถูกจับเผย ได้ค่าดริ้งค์ 120 บาท ทางร้านจะหักไป 20 บาท ต่อ 1 ครั้ง

สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แถลงข่าวจับสาวลาว ค้ามนุษย์ในรูปแบบลามกอนาจาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า คดีนี้เกิดจากการสืบสวนหาข่าวของชุดสืบสวน บก.ตม.1 ในการตรวจสอบสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ว่า

ร้านสบายดีคาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ถนนกําแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง มีเด็กสาวนั่งดริ้งค์อายุ ไม่เกิน 18 ปีคอยนั่งให้บริการแก่ลูกค้า แต่งกายยั่วยวนทางเพศ

ซึ่งลูกค้าสามารถแตะเนื้อต้องตัวเด็กสาวดังกล่าวได้ (กระทําอนาจาร/กอด จูบ ลูบ คลํา) ซึ่งทางร้านเองก็ได้รับประโยชน์ (รายได้/ตัวเงิน) จากการที่เด็กให้บริการนั่งดื่มกับ ลูกค้าและร้านค้าแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กในรูปแบบดังกล่าว (ค่าดริ้งค์ เด็กได้ส่วนหนึ่ง ร้านได้ส่วนหนึ่ง)

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้วางแผนในการเข้าตรวจสอบ โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ เดินทางไปเฝ้าสังเกตบริเวณหน้าร้าน พบหญิงวัยรุ่นที่สันนิฐานว่าอายุน่าจะไม่เกิน 18 ปี จํานวน 2- 3 คน เดินเข้า-ออกร้าน มีการแต่งกายยั่วยวนทางเพศ และคาดว่าทํางานอยู่ที่ร้านดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 12 ก.ย.62 เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมสายลับ ได้แฝงตัวเข้าไปสืบสวนหาข่าวโดยเข้าไปใช้บริการ พบมีพนักงานหญิงทํางานในลักษณะนั่งดริงค์ กับแขก โดยแขกต้องจ่ายค่าดริ้งค์ครั้งละ 120 บาท ต่อการที่หญิงสาวนั่งด้วย 40 นาที และจากการสังเกตโต๊ะอื่นมีการ โอบกอด ถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาว

และหญิงสาวมีการสอบถามว่าจะพาไปข้างนอกหรือไม่ ซึ่งจะต้องเสียค่าเวลาให้ทางร้าน 300 บาท คาดว่าอาจเป็นการชักชวนค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทํารายงานการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชาไว้ เป็นหลักฐาน

วันที่ 1 ต.ค.62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้วางแผนเข้าตรวจสอบจับกุมร้านสบายดี คาราโอเกะ โดย ได้นําธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จํานวน 4 ใบถ่ายสําเนาและลงบันทึกประจําวันไว้เป็นหลักฐาน และมอบให้สายลับใช้ในการ ล่อซื้อและส่งสายลับเข้าไปใช้บริการ และเมื่อสายลับส่งสัญญาณเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าไปตรวจสอบ พบหญิงสาว จํานวน 5 คน

ทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว กําลังทํางานในลักษณะนั่งดื่มกินอยู่กับลูกค้า และมีการโอบกอด ลูบคลํา จากการตรวจสอบพบผู้ถูกจับที่ 1 ชื่อนางบี (นามสมมุติ) ยอมรับว่าเป็นผู้ดูแลร้านสบายดีคาราโอเกะ ซึ่งเป็นของนายดลเดชฯ สามีตนเอง แต่นายดลเดชฯไม่ค่อยได้เข้ามาที่ร้าน มอบหมายให้ตนเองรับพนักงานเข้าทํางานเองทั้งหมด ผู้ถูกจับที่ 2 ชื่อ นางคําภูวัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว

แต่ไม่มีใบอนุญาตทํางาน ผู้ถูกจับที่ 3 ชื่อ นางพัดละดา ไม่มีหนังสือเดินทาง และพบพนักงานนั่งดริ้งค์อายุไม่เกิน 18 ปี จํานวน 2 ราย ให้ถ้อยคําว่ามีหน้าที่ให้บริการลูกค้า แต่งกายวาบหวิว ยั่วยวนทางเพศ คอยนั่งดื่มกินและให้บริการลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถแตะเนื้อต้องตัวได้ (กระทําอนาจาร/ กอด/จูบลูบคลํา) ซึ่งทางร้านเองก็ได้รับประโยชน์ (รายได้/ตัวเงิน)

จากการที่ตนให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้าโอบกอด ลูบคลํา โดยค่าดริ้งค์ 120 บาท ทางร้านจะหักไป 20 บาท ต่อ 1 ครั้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังพบธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท ที่ใช้ในการล่อซื้อ จํานวน 2 ฉบับอยู่ในกระเป๋าสะพายของผู้ถูกจับที่ 1 ที่วางอยู่บริเวณเคาเตอร์คิดเงิน ภายในร้านอีกด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทําการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า

ค้ามนุษย์โดยการแสวงหา ประโยชน์โดยมิชอบในทางเพศในรูปแบบให้บริการทางอนาจาร กระทําแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทําให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิด

อันมีลักษณะเป็นการ ลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อการใด และเป็นนายจ้างรับผู้ที่มีอายุต่ํากว่าสิบแปดปี บริบูรณ์เข้าทํางานในสถานบริการโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สตม.เพื่อดําเนินการตาม กฎหมายต่อไป