ประเด็นน่าสนใจ
- อดีตประธานศาลอุทรณ์ ชี้ กรณี ผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเอง เป็นเพราะรับแรงกดดันในระบบของศาลไม่ได้
- ชี้ ยังไม่ใช่การถูกแทรกแซง
- เห็นด้วยแก้ไขพระธรรมนูญศาลยุติธรรมให้คำพิพากษาไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากสายบังคับบัญชา พร้อมขออย่าโยงการเมือง
นายศิริชัย วัฒนโยธิน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ แถลงข้อเท็จจริงเบื้องลึกเกี่ยวกับ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา ที่ยิงตัวเองหลังตัดสินคดีความ ในฐานะที่เคยอยู่ในวงการตุลาการมาก่อน ว่า
ตามหลักผู้พิพากษาจะเป็นอิสระ การเขียนคำพิพากษาไม่ได้อยู่ในสายงานของผู้บังคับบัญชา แม้จะมีการเข้ามาดูแลควบคุมบ้างก็ตาม แต่ศาลชั้นต้น จะมีอธิบดีผู้พิพากษาภาคเข้ามาดูแล และตรวจสำนวนที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วยก็จะมีการทักท้วงเช่นเดียวกับศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งเป็นระบบที่มีมานานแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแรงกดดันของแต่ละบุคคลด้วย
และมองว่า คดีที่จังหวัดยะลาไม่ได้เป็นการแทรกแซงองค์กรตุลาการ เพราะยังอยู่ในระเบียบข้อบังคับที่ทำได้ในการเรียกตรวจสำนวน เพราะกรณีนี้ยังไม่ปรากฎว่าอธิบดีผู้พิพากษาภาค9 ไปรับคำสั่งใครให้มากดดันลงโทษจำเลย
ส่วนกรณีผู้พิพากษาพกพาอาวุธปืนเข้าไปในศาลได้จนเป็นที่วิพากวิจารณ์นั้น นายศิริชัย ชี้แจงว่า ตามระเบียบของศาลในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่พิเศษ ที่ยินยอมให้มีอาวุธปืนไว้ประจำกายที่เอาไว้ป้องกันตัวได้
ทั้งนี้ อดีตประธานศาลอุทธรณ์ เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขพระธรรมนูญของศาลยุติธรรม ตามที่ นายคณากร เสนอ โดยให้การเขียนคำพิพากษาเป็นสิทธิ์ของศาลนั้นๆ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากสายบังคับบัญชา
และการที่ออกมาแถลงข่าว เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก เพราะการรับแรงกดดันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และความเห็นของการตัดสินแต่ละคนไม่เหมือนกัน และจะมีวิธีป้องกันแก้ไขอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้มองว่า บุคคลที่จะมาเป็นอธิบดีผู้พิพากษาภาคต้องเป็นบุคคลที่ใจเย็น และประณีประนอม อย่าใช้อำนาจในทางที่รุนแรง
และไม่อยากให้นำประเด็นของนายคณากร หรือสถาบันตุลาการ ไปเชื่อมโยงการเมือง เพราะส่วนตัวยังหวังว่าต้องการให้ศาลกลับมาเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน