ประเด็นน่าสนใจ
- ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมการติดตั้ง และเปิดเครื่องหอสูงฟอกอากาศ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด
- เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องในการลดปริมาณฝุ่น และมลพิษทางอากาศ
- จะเปิดเดินเครื่องในช่วงเวลาเร่วด่วนที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น คือเวลา 06.00-09.00 น. และเวลา 17.00 – 19.00 น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมการติดตั้ง และเปิดเครื่องหอสูงฟอกอากาศ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องในการลดปริมาณฝุ่น และมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน หากอยู่ในเกณฑ์เกินมาตราฐานกำหนดคือ 50 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
โดยการติดตั้งเครื่องดังกล่าว เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานในการลดปัญหาฝุ่น และมลพิษจาก PM2.5 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเสริมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นและมลพิษทางอากาศ โดยทาง กทม.ได้เริ่มติดตั้งเครื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา และจะเปิดเดินเครื่องในช่วงเวลาเร่วด่วนที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น คือเวลา 06.00-09.00 น. และเวลา 17.00 – 19.00 น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมเก็บข้อมูลปริมาณความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ช่วงก่อนติดตั้ง และในช่วงที่เปิดเดินเครื่องฟอกอากาศ เพื่อนำข้อมูลวิเคราะห์ และเปรียบเทียบความเข้มข้นของฝุ่นมลพิษ รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องว่าสามารถลดปริมาณฝุ่น PM.25 ได้หรือไม่
สำหรับหอสูงฟอกอากาศ มีลักษณะเป็นเสาสูง 4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ใช้หลักการทำงานของพัดลมขนาดใหญ่ที่มีปริมาณลมสูง (Air Volume) และกำลังการตึงลมสูง (Air Pressure) ดึงอากาศให้ไหลผ่านแผ่นกรองฝุ่น 2 ชิ้น โดยใช้แผ่นกรองชนิด HEPA Filter ขนาด 1 ไมครอน และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกทางด้านบน มีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 17,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตารางเมตร โดยใช้กำลังไฟฟ้า 3.5 กิโลวัตต์
ทั้งนั้ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวปิดท้ายว่า การติดตั้งหอสูงฟอกอากาศเป็นเพียงมาตราการเสริมในการดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยแก่ประชาชน ควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ ที่ กทม. ดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ และเอกชน
รวมถึงประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น กทม.จึงอยากขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจในการเพกเนินชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน เช่น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้น บำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ปลูกต้นไม้ป้องกันฝุ่น และดูดขับมลพิษ เพื่อให้กรุ่งเทพฯเป็นเมืองปลอดฝุ่น ปลอดภัยน่าอยู่ และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบ Real Time ได้ทางเว็ปไซต์ www.bangkokairquality.com และทางเฟซบุ๊คกงจัดการคุณภาพอากาศ และเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร