คณะรัฐมนตรีจะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือ ตามมติ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อควบคุมราคาค่าบริการให้เป็นธรรม ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าทำไมค่าบริการของโรงพยาบาลเหล่านี้ถึงมีราคาแพง
ปัญหาราคา ค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนราคาแพงเกินจริง ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. มีมติให้ ยา เวชภัณฑ์ รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์ เข้าไปอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม และเตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาสัปดาห์นี้
แน่นอนว่าหากพูดถึงโรงพยาบาลเอกชน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค เพราะความแตกต่างด้านการให้บริการ ราคายาและค่ารักษาพยาบาลที่แพงกว่าโรงพยาบาลของรัฐ ยังเป็นข้อถกเถียงว่า มีสาเหตุมาจากอะไร
เรื่องนี้ทางด้านสมาคมโรงพยาบาลเอกชนเคยเปิดเผย ข้อเท็จจริงขั้นตอนทั้งหมดซึ่งเป็นที่มาของ “ราคายาโรงพยาบาลเอกชน” ที่ไม่อาจหยิบยกแค่ค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตยามากำหนดกรอบราคาได้
เพราะหากดู จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโรงพยาบาล ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการคัดเลือกยา ที่ต้องมีประสิทธิภาพ ก่อนนำเข้ามาใช้ในโรงพยาบาล
ค่าบุคลากรที่ ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อที่จะสั่งยาหรือวิเคราะห์ทางการแพทย์ไม่ให้กระทบกับผู้ป่วย บุคลากรเวชระเบียนที่มีความชำนาญ แม้กระทั่งเทคโนโลยี ในการสั่งจ่ายยาและ กระบวนการในเก็บรักษา ที่ต้องมีคุณภาพ
นอกจากนี้โรงพยาบาลเอกชนยังจะต้องทำ “ประกันความเสี่ยง” ที่อาจเกิดความผิดพลาดต่อคนไข้ โดยวงเงินประกันดังกล่าวมีมูลค่าไม่น้อย
แตกต่างจาก โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีเงินภาษีเข้ามาอุดหนุน
อย่างไรก็ตาม แม้ทางฝั่งผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชนจะมีต้นทุนของการคิดค่าบริการสูง แต่เรื่องค่ารักษาพยาบาลนี้ดูจะเป็นโจทย์ใหญ่ ที่มีการถกเถียงหาทางออกมากันมานาน ทั้งการผลักดันกฎหมาย รวมถึง กำหนดอัตราค่าให้เหมาะสมและเป็นธรรม
จากนี้คงต้องจับตาดูว่าเมื่อ กกร. มีมติให้ ยา เวชภัณฑ์ รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์ เข้าไปอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม และมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณากำหนดส่วนต่างให้สอดคล้องจะแก้ปัญหานี้ให้เป็นรูปธรรมได้แค่ไหน