นายพลยึดบ้านหรู เจ้าของร้านเพชรโดนยึดบ้าน

เจ้าของร้านเพชรร้องสื่อ ถูกนายพล ยึดบ้านหรูมูลค่ากว่า 40 ล้าน

น.ส.พิมพ์นรี โหตะไวทยากร เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คล้ายทหารนับสิบคน บุกเข้ามาที่บ้านหลังพักของตนเองกับใน อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งๆ ที่ตนเองมีทะเบียนบ้านและโฉนดที่ดินครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยชายกลุ่มนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนกุญแจบ้านและกล้องวงจรปิดทั้งหมด เหมือนเตรียมการมาเป็นอย่างดี…

Home / NEWS / เจ้าของร้านเพชรร้องสื่อ ถูกนายพล ยึดบ้านหรูมูลค่ากว่า 40 ล้าน

ประเด็นน่าสนใจ

  • เจ้าของร้านเพชรร้องสื่อ ถูกนายพลทหารเรือ ยึดบ้านหรูมูลค่ากว่า 40 ล้าน
  • น.ส.พิมพ์นรี ยังโชว์โฉนดที่ดินตัวจริงและทะเบียนบ้าน
  • ด้านอดีตรองปลัด กระทรวงกลาโหม ยันบ้านหลังดังกล่าว เป็นทรัพย์สินของตนเองตามคำสั่งศาล

น.ส.พิมพ์นรี โหตะไวทยากร เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คล้ายทหารนับสิบคน บุกเข้ามาที่บ้านหลังพักของตนเองกับใน อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งๆ ที่ตนเองมีทะเบียนบ้านและโฉนดที่ดินครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดยชายกลุ่มนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนกุญแจบ้านและกล้องวงจรปิดทั้งหมด เหมือนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ทำให้ตนเองและน้องสาว ไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ซึ่งได้ไปแจ้งความร้องทุก ที่ สภ.บางศรีเมืองไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้งความในคดีนี้

น.ส.พิมพ์นรี ยังโชว์โฉนดที่ดินตัวจริงและทะเบียนบ้าน พร้อมเล่าว่า ประมาณปี 2541 พี่ชายของคุณแม่ ได้พาเพื่อนนายทหารเรือยศพล.ร.อ.ปัจจุบันเกษียณราชการคนนี้ มาที่บ้านให้ทุกคนได้รู้จัก จนกระทั่งมีความสนิทสนมกับทุกคน ต่อมาคุณพ่อได้หย่าร้างกับคุณแม่ เพราะเกิดปัญหาสาเหตุมาจากความหึงหวง ที่นายทหารคนดังกล่าวมีความใกล้ชิดกับคุณแม่มากเกินไป

กระทั่งปี 2549 แม่ได้ซื้อบ้านหลังนี้ใน พร้อมทั้งตกแต่งรวมกว่า 40 ล้าน บาท ใช้ชื่อบ้านและโฉนดที่ดินเป็นชื่อของคุณแม่โดยตนเอง น้องสาวและนายทหารคนนี้เข้ามาอาศัยอยู่ด้วย ต่อมาปี 2559 คุณแม่ได้โอนที่ดินพร้อมบ้านหลังนี้ให้เป็นชื่อของตนเอง ก่อนเสียชีวิต จนต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คนได้บุกเข้ามาในบ้านจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ขณะที่นายทหารที่ถูกกล่าวถึงก็คือ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัด กระทรวงกลาโหม ซึ่งก็เปิดเผยถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นทรัพย์สินของตนเองตามคำสั่งศาล ซึ่งศาลมีคำสั่งเป็นที่สุดแล้ว มีหลักฐานยืนยันได้ ส่วนหลักฐานที่ผู้หญิงคนนี้นำมาแสดงนั้นเป็นเท็จทั้งหมด