ยาเสพติด รถกู้ภัย

เฝ้าระวัง การลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยรถกู้ชีพฉุกเฉิน

จากการที่ขบวนค้ายาเสพติดยังคงมีความพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านข้ามชายแดนและเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยการลำเลียงยาเสพติดจะใช้พาหนะหลากหลายชนิดเพื่ออำพรางการกระทำผิด ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับผู้ต้องหา 2 คนซึ่งใช้รถกู้ภัยที่ระบุข้อความข้างรถเป็นชื่อมูลนิธิแห่งหนึ่ง ลำเลียงยาบ้า 592,000 เม็ด จากชายแดนเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และต่อมาได้ขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 2 คน…

Home / NEWS / เฝ้าระวัง การลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยรถกู้ชีพฉุกเฉิน

ประเด็นน่าสนใจ

  • ป.ป.ส. เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์กู้ชีพฉุกเฉิน
  • พบผู้ต้องหาใช้รถกู้ภัยลำเลียงยาบ้า 592,000 เม็ด จากชายแดนเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่

จากการที่ขบวนค้ายาเสพติดยังคงมีความพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านข้ามชายแดนและเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยการลำเลียงยาเสพติดจะใช้พาหนะหลากหลายชนิดเพื่ออำพรางการกระทำผิด

ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับผู้ต้องหา 2 คนซึ่งใช้รถกู้ภัยที่ระบุข้อความข้างรถเป็นชื่อมูลนิธิแห่งหนึ่ง ลำเลียงยาบ้า 592,000 เม็ด จากชายแดนเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และต่อมาได้ขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 2 คน จากการสอบสวนทราบว่า ยาบ้าทั้งหมดจะถูกลำเลียงไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มขบวนการค้า/ลำเลียงยาเสพติดบางกลุ่ม ได้ใช้พาหนะที่ติดตราเครื่องหมายของทางราชการ รถกู้ภัย รถพยาบาล หรือรถรับส่งผู้ป่วย ในการลำเลียงยาเสพติด

ทั้งนี้ เพื่ออำพรางและหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกเรียกตรวจ ณ จุดตรวจ/จุดสกัด ซึ่งที่ผ่านมามีการจับยึดยาเสพติดที่ใช้พาหนลักษณะดังกล่าวลำเลียงรวม 7 คดี ผู้ต้องหา 21 คน ของกลางยาบ้า 1,351,837 เม็ด ไอซ์ 601 กิโลกรัม คีตามีน 80 กิโลกรัม

การกระทำดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อภาพรวมในการอำนวยความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้พาหนะดังกล่าวยามจำเป็นเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ดังตัวอย่างในคดีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปปส.ภาค 5 ร่วมกับตำรวจ สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา จับผู้ต้องหา 7 คน ใช้รถตู้ดัดแปลงเป็นรถพยาบาล ลักลอบขนยาเสพติดทั้งยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก

ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดพะเยาได้พิพากษาตัดสินประหารชีวิตจำเลยทั้ง 7 ฐานร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายในลักษณะร่วมเป็นขบวนการ โดยใช้รถยนต์กู้ชีพฉุกเฉินที่มีไว้สำหรับนำส่งผู้ป่วยมาลำเลียงยาเสพติด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าพนักงานอันเป็นการกระทำที่อุกอาจปราศจากความยำเกรงต่อกฎหมาย

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า “ตามนโยบายรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และข้อเน้นย้ำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำถึงมาตรการการป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน

ซึ่งนอกจากการเฝ้าระวังตามจุดตรวจ/จุดสกัดต่างๆ ขอให้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้กำกับดูแลไม่ให้มีการนำรถของหน่วยงานที่มีการติดตราต่างๆ ไปใช้กระทำผิดกฎหมาย หรือหากประชาชนพบและสงสัยว่ามีการใช้หรือปลอมแปลงรถฉุกเฉินเพื่อใช้ลำเลียงยาเสพติดตามที่เป็นข่าวนั้น สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดมาได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการต่อไป”