ข่าวสดวันนี้ รับเด็กเข้าเรียน

สพฐ. ให้อิสระ ศธ.จังหวัดกำหนดนโยบายรับเด็กใหม่ได้เอง ในปี 63

รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยผลการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติหลักการและเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้จังหวัดและเขตพื้นที่การศึกษา มีส่วนร่วมกำหนดเกณฑ์และรับผิดชอบการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2563 มาตรการนี้เพื่อให้การรับเด็กเข้าเรียนเหมาะสมในพื้นที่ สามารถตรวจสอบได้และเท่าเทียม…

Home / NEWS / สพฐ. ให้อิสระ ศธ.จังหวัดกำหนดนโยบายรับเด็กใหม่ได้เอง ในปี 63

ประเด็นน่าสนใจ

  • สพฐ. มีมติอนุมัติหลักการ กระจายอำนาจให้จังหวัด-พท.เขตการศึกษาในการกำหนดหลักเกณฑ์การรับนักเรียนได้เอง
  • มาตรการนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ และจะเริ่มในปี 2563
  • คาดว่าจะประกาศในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้ผู้ปกครองได้เตรียมตัว

รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยผลการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติหลักการและเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้จังหวัดและเขตพื้นที่การศึกษา มีส่วนร่วมกำหนดเกณฑ์และรับผิดชอบการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2563

มาตรการนี้เพื่อให้การรับเด็กเข้าเรียนเหมาะสมในพื้นที่ สามารถตรวจสอบได้และเท่าเทียม

ซึ่งมาตรการนี้ เพื่อกระจายอำนาจให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตั้งคณะกรรมการรับนักเรียนระดับจังหวัด โดยให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เป็นประธาน มีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตในจังหวัด และผู้แทนจากหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ

ทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ และมีคณะกรรมการรับนักเรียนระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อีก 1 ชุด ดูแลการรับนักเรียนภายในเขตพื้นที่การศึกษาร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษาอื่นภายในจังหวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม และเสมอภาคตามหลักธรรมาภิบาล

การกำหนดสัดส่วนนักเรียนต่อห้อง ยังเป็นหน้าที่ สพฐ. กลาง

คณะกรรมการรับนักเรียนระดับจังหวัด จะมีอำนาจหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การรับนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของนักเรียน สัดส่วนการรับนักเรียนของโรงเรียน จัดการสอบหรือไม่สอบ จะใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต) หรือไม่ การกำหนดการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษถ้าจำเป็นต้องมี เป็นต้น

โดย สพฐ.ส่วนกลาง ยังคงกำหนดหลักการเรื่องจำนวนนักเรียนต่อห้องเพื่อประกันคุณภาพ เช่น ระดับประถมศึกษาจำนวน 30 คนต่อห้อง มัธยมศึกษา 40 คนต่อห้อง หากจำเป็นสามารถขยายได้ไม่เกิน 5 คนต่อห้อง

ส่วนการรับนักเรียนในระดับการศึกษาปฐมวัยหากมีหน่วยงานในพื้นที่จัดการศึกษาอยู่แล้ว เช่น เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ให้หน่วยงานนั้นๆ ดำเนินการรับเด็กไปก่อน

ส่วนสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.จะรับในส่วนที่ไม่มีสถานศึกษาสังกัดอื่นดูแลเด็กอยู่ ทั้งนี้ที่ประชุม กพฐ.เสนอว่าควรเปิดโอกาสให้เด็กพิเศษสามารถเรียนรวมกับเด็กปกติในโรงเรียนทั่วไปด้วย

คาดว่าภายใน ต.ค. นี้ จะออกประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

“การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากอดีตคือ นโยบายการรับ สัดส่วนการรับ ไม่ได้ออกมาจากส่วนกลาง แต่เป็นอำนาจและอิสระของพื้นที่ ที่พิจารณาความเหมาะสมของบริบทในพื้นที่ เช่น เดิมอาจกำหนดให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนกับเด็กนอกเขตพื้นที่ฯ 60:40 ซึ่งต่อไปบางแห่งก็อาจจะมีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง

ซึ่งในพื้นที่จะมีกรรมการ 2 ชุด ศธจ. กับ ผอ.สพท.ต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศได้ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้พื้นที่ได้ดำเนินการ และประกาศหลักเกณฑ์การรับนักเรียนให้ผู้ปกครองได้เตรียมตัวต่อไป” รศ.เอกชัย กล่าว