ประเด็นน่าสนใจ
- มีหญิงไทยถูกจับได้ว่า นำยาเสพติดรวมกว่า 1 กิโลกรัมเข้าประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือน ก.ย. 2562
- ผู้ถูกจับกุมสารภาพลักลอบนำเข้ายาเสพติด เพื่อส่งต่อให้ชาวต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลตรงกันว่า ล้วนถูกชักชวน จ้างวานโดยผู้ค้ายาเสพติดผิวสี
- ป.ป.ส. เตือน ! อย่าเห็นแก่การได้ไปท่องเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จะตกเป็นเหยื่อให้ขนยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว
จากกรณีที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลว่ามีหญิงไทย 7 คนถูกศุลกากรญี่ปุ่น ประจำท่าอากาศยานฟูกูโอกะ ถูกจับกุมในฐานะนำยาเสพติดรวมกว่า 1 กิโลกรัมเข้าประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา
ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ได้รับข้อมูลที่เปิดเผยได้คือ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำท่าอากาศยานฟูกูโอกะ
พบหญิงไทยทั้ง 7 คน มีอายุระหว่าง 20 – 50 ปี เดินทางเข้าประเทศในฐานะนักท่องเที่ยว แสดงพิรุธจึงเรียกตรวจค้นและพบยาเสพติดซุกซ่อนมากับร่างกายแต่ละคน รวมแล้วเป็นยาเสพติดชนิด ไอซ์ น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม ภายหลังสอบสวนทั้ง 7 คน ยอมรับว่าลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาเพื่อส่งต่อให้ชาวต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมาจากการติดตามข่าวพบว่ามีคนไทยถูกจับคดีลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นรวม 20 คดี 37 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเดินทางไปในฐานะนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี ซึ่งเมื่อสอบสวนแล้วพบว่า ล้วนถูกชักชวนหรือจ้างวานโดยผู้ค้ายาเสพติดผิวสี
เลขาธิการ ป.ป.ส. ขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ทราบว่าขณะนี้ทางการญี่ปุ่นเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้เดินทางจากประเทศไทย และขอให้ระวังตกเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ไม่ว่าจะโดยการชักชวนไปเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การฝากสิ่งของที่ซุกซ่อนยาเสพติดไป รวมถึงการจ้างวานโดยตรง
สำหรับกรณีที่มีคนไทยถูกจับที่ประเทศญี่ปุ่นในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกกรณี สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการประสานงานทั้งด้านการข่าวและการขยายผลการสืบสวนเพื่อจับผู้บงการอยู่เบื้องหลังทุกกรณี
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด