เรียกรับเงิน เรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบ

ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายก อบต. เรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบรายละ 500,000 – 650,000 บาท

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลเขวาไร่ อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557…

Home / NEWS / ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายก อบต. เรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบรายละ 500,000 – 650,000 บาท

ประเด็นน่าสนใจ

  • คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายก อบต. และผู้เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามเพิ่มเติม 4 แห่ง
  • กรณีเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบเพื่อช่วยเหลือให้ผู้สอบได้เป็นพนักงานส่วนตำบล รายละ 500,000 – 650,000 บาท

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลเขวาไร่ อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 จำนวน 18 ราย เมื่อปี พ.ศ. 2560 แล้วนั้น

ล่าสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามเพิ่มเติม 4 แห่ง ปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้

ปี 2557 องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 31 แห่ง ซึ่งดำเนินการจัดสอบ โดยมหาวิทยาลัย 2 แห่ง แห่งแรกดำเนินการจัดสอบ 19 อบต. แห่งที่สองดำเนินการจัดสอบ 12 อบต. โดยผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ดังนี้

  • ผู้ถูกกล่าวหาได้ร่วมกันวางแผนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ตั้งแต่การดำเนินการประสานงานให้มหาวิทยาลัย 2 แห่ง เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการจัดสอบ รวมทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบแข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวไม่ได้มีการประชุมกันจริงแต่มีการจัดทำรายงานการประชุมเท็จและมีการเบิกเงิน ค่าเบี้ยประชุมและค่าเดินทางเพื่อให้เชื่อว่ามีการประชุมเพื่อจัดเตรียมการจัดสอบจริง ต่อมาเมื่อมีการจัดสอบแล้ว
  • ผลการสอบปรากฏว่า การจัดสอบโดยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีผู้สอบได้ 3 คน ส่วนมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง มีผู้สอบได้ 1 คน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรก กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาได้ร่วมกันจัดทำผลคะแนนปลอม จากผู้สมัครสอบ ที่สอบไม่ผ่านให้เป็นผู้สอบผ่าน โดยมีการปลอมลายมือชื่อของอาจารย์และตราประทับของมหาวิทยาลัย
  • ส่วนมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้จัดทำผลคะแนนสอบเป็นเท็จ แล้วลงลายมือชื่อของอาจารย์และตราประทับของมหาวิทยาลัยจริง
  • ส่วนในการสอบสัมภาษณ์คณะกรรมการสัมภาษณ์ไม่มีการลงคะแนนหรือลงคะแนนด้วยดินสอแต่ลงลายมือชื่อด้วยปากกาในตารางการให้คะแนน เพื่อให้มีการแก้ไขให้คะแนนให้เป็นไปตามที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาต้องการ
  • โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ดำเนินการเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบที่ประสงค์จะเป็นผู้สอบได้ รายละ 500,000 – 650,000 บาท แล้วนำส่วนหนึ่งรายละ 50,000 บาท เป็นค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ติดต่อ (นายหน้า) ให้ผู้สมัครสอบจ่ายเงินดังกล่าว
  • และนำส่วนหนึ่งมอบให้อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ร่วมขบวนการที่จัดทำผลคะแนน เป็นเท็จ จำนวน 3,000,000 บาทเศษ และมอบให้ผู้ที่จัดทำผลคะแนนปลอมของมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง จำนวน 12,000,000 บาท
  • และเมื่อมีการร้องเรียนว่ามีการทุจริตการสอบดังกล่าวต่อคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลเพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรรมการพนักงานส่วนตำบลก็ได้มีการร่วมกันลงมติให้ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อปกปิดไม่ให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้

1.กลุ่มนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 4 คน ประกอบด้วย นายทองใบ บาระพรม นายก อบต. ลาดพัฒนา อำเภอเมือง นายสมบูรณ์ คำสอนทา นายก อบต.ห้วยแอ่ง อำเภอเมือง นายเกริกฤทธิ์ อามาตร นายกอบต.เลิงใต้ อำเภอโกสุมพิสัย นายสุภาพ ผาบพุทธา นายก อบต.เขวาไร่ อำเภอโกสุมพิสัย

มีมูลความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบมาตรา 83 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิดให้ต้องถอดถอน ออกจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.กลุ่มคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดมหาสารคาม (ก.อบต.จังหวัดมหาสารคาม) จำนวน 17 คน ประกอบด้วย นายสุธรรม วงศ์แก้ว นายคมสันต์ บุญศร นายสมบูรณ์ นาเพีย นายวสันต์ ปะกิสังข์ นางวิลาวรรณ พิพัฒน์ชัยกร นายสิทธิชัย โยปัดทุม นายชัยพจน์ คชโคตร นายทองสุข ทุมมี นายสุเมธ จุรุฑา นายเอนก กระแจ่ม นายจีรพร ถนัดค้า นายจรูญ มะลิปิไข นายศิริ มะลิลา

นายยุทธเดช พลอยสังวาลย์ นายเชาวลิต จันทวะฤทธิ์ จ่าเอก อำนาจ วินทะวุธ และนายคมเดช จันโทริ ทั้งในฐานะ ก.อบต.จังหวัดมหาสารคาม และ/หรือในฐานะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันฯ และ/หรือในฐานะกรรมการสอบฯ ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) ที่ร่วมกันลงมติให้ยุติการตรวจสอบไต่สวนข้อเท็จจริง

มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งกรณีที่เป็นกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันฯ จัดทำและรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการสอบแข่งขันฯ อันเป็นเท็จ และกรณีที่เป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ ไม่ได้ลงคะแนนในตารางการให้คะแนน หรือลงคะแนนด้วยดินสอ

แต่ลงลายมือชื่อด้วยปากกา หรือกระทำการให้ได้บุคคลตามที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาต้องการ มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 161 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบมาตรา 83 และกรณีมีการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยประชุมและค่าพาหนะ

ทั้งที่ไม่ได้มีการประชุมจริง มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และกรณีที่มีส่วนร่วมในการ เรียก รับเงินในขบวนการทุจริตการสอบด้วย มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 83 และกรณีที่เป็นข้าราชการ ในตำแหน่งอื่นด้วย มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง อีกด้วย

3.กลุ่มที่จัดทำผลคะแนนเท็จและปลอมผลคะแนน จำนวน 4 คน ประกอบด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธุ์ นายสมคิด มะธิปะโน นายกิตติกร ศิลป์อ่อน และนายอดิศักดิ์ อำไพรศรี กรณีเรียก รับเงินเพื่อจัดทำผลคะแนนอันเป็นเท็จ และปลอมผลคะแนน จากผู้สมัครสอบที่สอบไม่ผ่าน ให้เป็นผู้สอบผ่าน

มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 มาตรา 151 และมาตรา 162(1), (4) ประกอบมาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

4.กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายสิทธิ พิพัฒน์ชัยกร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองมหาสารคาม นางสาวอรัญญา แคนหนอง ปลัด อบต.ห้วยแอ่ง นางสาวเจนจิรา ใจจุลละ รองปลัด อบต.ห้วยแอ่ง และสิบเอก ประเสริฐ วิริยะ ผอ.กองช่าง อบต.ห้วยแอ่ง นางรพีพร สุวรรณเลิศ ปลัด อบต.เลิงใต้ นางรัตนธิดา ตะวัน หัวหน้าสำนักปลัด อบต.เลิงใต้

นายพงษ์สิน สังขะทิพย์ ผอ.กองช่าง อบต.เลิงใต้ นางสาวสุกัลยา สิงห์บุรมย์ ปลัด อบต.เขวาไร่ อำเภอโกสุมพิสัย และนางสาวสมร สีสุนนท์ บุคลากร ระดับ 5 อบต.เขวาไร่ อำเภอโกสุมพิสัย ในฐานะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันฯ และ/หรือในฐานะกรรมการสอบฯ ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค)

กรณีจัดทำและรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการสอบแข่งขันฯ อันเป็นเท็จ และกรรมการสอบสัมภาษณ์ไม่ได้ลงคะแนนในตารางการให้คะแนน หรือลงคะแนนด้วยดินสอ แต่ลงลายมือชื่อด้วยปากกา หรือกระทำการให้ได้บุคคลตามที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาต้องการ

มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 157มาตรา 161 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบมาตรา 83 และกรณีมีการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยประชุมและค่าพาหนะ ทั้งที่ไม่ได้มีการประชุมจริง มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86

และกรณีที่มีส่วนร่วมในการ เรียก รับเงินในขบวนการทุจริตการสอบด้วย มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง อีกด้วย

5.กลุ่มผู้ได้รับการขึ้นบัญชีและบรรจุแต่งตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล 4 แห่ง คือ อบต. ลาดพัฒนา อำเภอเมือง อบต.ห้วยแอ่ง อำเภอเมือง อบต.เลิงใต้ อำเภอโกสุมพิสัย และ อบต.เขวาไร่ อำเภอโกสุมพิสัย จำนวน 75 คน

มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86