ประเด็นสำคัญ
- อิสราเอลประกาศความสำเร็จในการทดสอบการใช้เลเซอร์โจมตี-สกัดกั้นอากาศยานไร้คนขับ ( UAV) ที่ระยะ 1 กม. ได้
- โดยตั้งเป้าในปลายปีนี้ ยกระดับให้ได้ที่ระยะ 8-10 กม. และติดตามอากาศยานได้เร็วขึ้น
- เป้าหมายพัฒนาร่วมกับระบบไอรอน โดม เป็นระบบเลเซอร์ภาคพื้นดิน
…
กระทรวงกลาโหมของอิสราเอลได้ประกาศความสำเร็จในการสร้างอาวุธเลเซอร์สำหรับใช้สกัดกั้นโดรนที่บินอยู่บนอากาศ โดยมีการติดตั้งอาวุธเลเซอร์ทดสอบนี้บนเครื่องบิน Cessna ซึ่งเป็นเครื่องบินเล็กในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในการทดสอบในครั้งนี้ ถือเป็นการทดสอบขั้นแรกในโครงการนำร่องของกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ที่ต้องการพัฒนาอาวุธเลเซอร์ทางอากาศ จากสถานการณ์ที่อิสราเอลต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่เกิดขั้น ตั้งแต่จรวด จนไปถึงลูกโป่งวางเพลิงจากในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการทดสอบขั้นแรกของโครงการที่มีการพัฒนาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ทางการอิสราเอลได้กล่าวถึงข้อดีในการใช้อาวุธเลเซอร์แบบนี้ว่า มีข้อดีเนื่องจากต้นทุนของการใช้งานยิงออกไปต่อครั้งนั้น มีต้นทุนที่ถูกว่า ในราคาไม่กี่เหรียญสหรัฐฯ และยังสามารถสกัดกั้นการโจมตี หรือภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของสภาพดินฟ้าอากาศแต่อย่างใด สามารถป้องกันการโจมตีได้ในวงกว้าง ซึ่งคาดว่าอาวุธเลเซอร์เหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันประเทศอิสราเอลได้อย่างมาก
ทางด้านของ Benny Gantz รมต.กระทรวงกลาโหมของอิสราเอลระบุว่า ยินดีกับการพัฒนาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะถือเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีไปอีกขึ้น ในการป้องกันประเทศ โดยมีเป้าหมายคือความปลอดภัย และประหยัด เลเซอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีทั้งในเรื่องของนำมาใช้ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ด้วยราคาที่ถูกกว่า
ในการทดสอบที่เกิดขึ้นพบว่า สามารถสกัดกั้น อากาศยานไร้คนขับ ( UAVs) หลายลำได้ในระยะ 1 กม. ได้อย่างแม่นยำ อัตราประสบความสำเร็จคือ 100% โดยอาศัยระบบการตรวจจับและติดตามแบบอัตโนมัติ
ซึ่งคาดว่าในระยะเวลาไม่กี่ปี อิสราเอลสามารถจะพัฒนาอาวุธเลเซอร์ที่มีพลังสูงถึง 100 กิโลวัตต์ และคาดว่ามีระยะในการสกัดกั้นได้ถึง 20 กม.
สำหรับแผนในปีนี้ อิสราเอลตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถพัฒนาให้ระบบเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ในระยะ 8-10 กม. และจะสามารถสกัดกั้นอากาศยานไร้คนขับที่บินเร็วกว่าการทดสอบในครั้งนี้
พลจัตวา Yaniv Rotem หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของกระทรวงกลาโหมอิสราเอลระบุว่า เลเซอร์ต้นแบบนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในการทดสอบติดตั้งบนเครื่องบินพลเรือนขนาดเล็ก และคาดว่าในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ก็จะสามารถพัฒนาเป็นระบบเลเซอร์ภาคพื้นดิน เพื่อใช้ป้องกันจรวดโจมตี ปืนครก รวมถึงโดรนขนาดเล็กต่าง ๆ ได้ ซึ่งคาดว่า จะสามารถเริ่มใช้งานได้ในปี 2024
เราจะทดสอบระบบนี้ไปจนถึงสิ้นปี และเมื่อมันใช้งานได้ คาดว่า อีก 3 ปี อิสราเอลจะมีเลเซอร์ภาคพื้นดินในพื้นที่บริเวณฉนวนกาซา
พลจัตวา Yaniv Rotem
ซึ่งในระยะ 3-4 ปีนี้ อิสราเอลจะพัฒนาระบบเลเซอร์ร่วมกับระบบไอรอน โดมที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เป็นระบบเลเซอร์ภาคพื้นดินในการป้องกันจรวดต่าง ๆ และคาดว่าจะใช้เวลา 8-10 ปีในการพัฒนาต่อจากนี้ ระบบเลเซอร์นี้เป็นอาวุธทางอากาศ ที่มีประจำการบนเครื่องบิน เนื่องจากพบว่า การใช้เลเซอร์ทางอากาศมีข้อจำกัดหากมีเมฆหนาทึบ
ดังนั้นในระยะแรก การพัฒนาเป็นระบบภาคพื้นจึงเป็นทางเลือกที่มีความเป็นไปได้สูง และดีกว่าในระยะอันใกล้นี้
เป้าหมายแรก Iron Beam
การที่อิสราเอลพัฒนาอาวุธเลเซอร์นี้ เข้าชดเชยข้อจำกัดของระบบไอรอน โดมแบบเดิมของอิสราเอล ที่มีราคาสูงในการยิงต่อครั้ง รวมถึงข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนจรวดในการยิงต่อครั้งได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหมด หรือมีราคาสูงอีกต่อไป
ซึ่งจากการปะทะที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เชื่อว่ามีจรวดและกระสุนปืนครกจำนวนหลายพันลูกที่ถูกยิงขึ้นมา และอิสราเองต้องยิงจรวดสกัดกั้นกว่า 4 พันลูก ในช่วงระยะเวลา 11 วันของการปะทะที่เกิดขึ้น
…