สวนดุสิตโพลล์ เรียนออนไลน์

สวนดุสิตโพลล์ระบุ “การศึกษาไทยไม่พร้อมเรียนออนไลน์”

68.52% ระบุการเรียนออนไลน์จะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยแย่ลง

Home / NEWS / สวนดุสิตโพลล์ระบุ “การศึกษาไทยไม่พร้อมเรียนออนไลน์”

ประเด็นสำคัญ

  • สวนดุสิตโพลล์ ระบุ ประชาชน 68.52% มองว่า การเรียนออนไลน์จะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยแย่ลง
  • ครูสวนใหญ่ กังวลเรื่องของอุปกรณ์การเรียนการสอน สัญญาณอินเตอร์เน็ต
  • ผู้ปกครองกลัว นร.ไม่มีสมาธิในการเรียน ส่วนผู้เรียนกังวลจะเรียนไม่เข้าใจ
  • กว่า 63% ระบุ การศึกษาไทยยังไม่พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์

จากสถานการณ์การการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้กระทรวงศึกษาธิการได้ให้สถานศึกษาโดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง เปิดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ทำให้ทุกฝ่ายต้องมีการปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้

โดยทางสวนดุสิตโพลล์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนการเรียนแบบออนไลน์เพื่อสะท้อนความคิดเห็นจากมุมมองของครู ผู้ปกครอง และนักเรียน

ประชาชนมอง กระทรวงไม่พร้อม

จากกลุ่มตัวอย่าง 3,749 คน ในการตอบแบบสอบถามในครั้งนี้ ระหว่าง 14 – 17 มิถุนายน 2564 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลกับความไม่พร้อมในการเรียนการสอนถึง 51.35% และระบุว่า การศึกษาของไทยยังไม่พร้อมกับการเรียนการสอนออนไลน์ ถึง 63.30%

ซึ่งสิ่งที่ในกลุ่มครู-อาจารย์ กังวลคือ ในประเด็นของอุปกรณ์ในการสอนไม่พร้อม เช่นอินเตอร์เน็ต สูงถึง 77.18% ในขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ กังวลว่า บุตรหลานจะไม่มีสมาธิในการเรียน – ไม่มีสมาธิในการเรียนเท่าที่ควร สูงถึง 65.80% ทางด้านของผู้เรียน 74.25% มีความกังวลว่า จะเรียนไม่เข้าใจ

ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐสนับสนุน มากที่สุดคือ อุปกรณ์เครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ 62.22% รองลงมาคือ มีส่วนลด/ใช้อินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับผู้เรียน 58.28% และต้องการมีส่วนลดค่าบำรุงการศึกษา 55.80%

ซึ่งโดยสรุปแล้วหลายฝ่ายมองว่า การเรียนออนไลน์จะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยแย่ลง 68.52%

รายละเอียดคำถาม – ผลสำรวจ

ในประเด็นคำถาม จากที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้เปิดเรียนวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ประชาชนคิดว่า ณ วันนี้ มีความพร้อมหรือไม่

  • ไม่พร้อม 51.35%
  • พร้อม 32.33%
  • ไม่แน่ใจ 16.32%

ประชาชนคิดว่าการศึกษาไทย ณ วันนี้ พร้อมที่จะเรียนออนไลน์หรือไม่

  • ไม่พร้อม 63.30%
  • พร้อม 21.31%
  • ไม่แน่ใจ 15.39%

สิ่งที่ “ครู ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนทั่วไป” กังวลเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์คือ

ครู

  • อุปกรณ์ไม่พร้อม อินเทอร์เน็ตช้า 77.18%
  • ผู้ปกครองไปทำงาน ไม่มีใครดูแลผู้เรียนที่บ้าน 69.74%
  • ผู้เรียนไม่เข้าใจ/เรียนไม่ทัน 67.31%

ผู้ปกครอง

  • ไม่มีสมาธิ ขาดความกระตือรือร้น 66.16%
  • ไม่เข้าใจเนื้อหาที่ครูสอน 64.64%
  • ผู้เรียนได้ความรู้ไม่เต็มที่ 61.65%

นักเรียน

  • เรียนไม่เข้าใจ เรียนไม่ทัน 74.25%
  • ไม่ได้พบเพื่อน ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน 63.47%
  • ได้ความรู้ไม่เท่ากับเรียนในห้องเรียน 62.28%

ประชาชนทั่วไป

  • ไม่มีสมาธิในการเรียนเท่าที่ควร 65.80%
  • ไม่เข้าใจเนื้อหา เรียนไม่ทัน 61.92%
  • อุปกรณ์ไม่พร้อม เช่น แท็บเล็ต อินเทอร์เน็ต 60.26%

สิ่งที่อยากให้ภาครัฐ/สถานศึกษาช่วยเหลือเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ คือ

  • อันดับ 1 สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ 62.22%
  • อันดับ 2 มีส่วนลด/ใช้อินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับผู้เรียน 58.28%
  • อันดับ 3 มีส่วนลดค่าบำรุงการศึกษา 55.80%
  • อันดับ 4 จัดการเรียนการสอนโดยเข้าใจถึงความแตกต่างของผู้เรียน 50.30%
  • อันดับ 5 มีนโยบายและมาตรการส่งเสริมการเรียนออนไลน์ 49.57%

ประชาชนคิดว่าการเรียนออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาระดับชั้นใดมากที่สุด

  • ระดับปฐมวัย 35.57%
  • ระดับประถมศึกษา 33.77%
  • ระดับมัธยมศึกษา 23.51%
  • ระดับอุดมศึกษา 7.15%

ประชาชนคิดว่าการเรียนออนไลน์จะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยเป็นอย่างไร

  • แย่ลง 68.52%
  • เหมือนเดิม 25.40%
  • ดีขึ้น 6.08%