ประเด็นน่าสนใจ
- ประธานาธิบดีชิลีประกาศระงับแผนขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน
- กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงในประเทศ
- การประท้วงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ประธานาธิบดีแห่งชิลีจะออกมาขอโทษแล้ว พร้อมให้คำมั่นเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยประชาชนมองว่ารัฐบาลเป็นต้นตอทำให้เศรษฐกิจในประเทศพัง
สถานการณ์ประท้วงในกรุงซานดิอาโก ประเทศชิลียังคงดุเดือด ล่าสุดมีผู้ประท้วงนับหมื่นคนออกมาเดินขบวนในหลายพื้นที่ทั่วเมือง นอกจากนี้ยังมีเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการจุดไฟเผาในหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสกัดเจ้าหน้าที่ จากความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ราย
ผู้ประท้วงซึ่ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าเมโทรทุกสายในกรุงซานดิอาโก ในอัตราค่าโดยสารช่วงเวลาเร่งด่วนสูงสุดที่ 830 เปโซชิลี หรือราว 35 บาท โดยรัฐบาลให้เหตุผลในการขึ้นราคาว่ามีต้นทุนทางพลังงานที่สูงขึ้นและเงินเปโซที่อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา แห่งชิลี จะออกแถลงการณ์ขอโทษรวมถึงให้คำมั่นสัญญาในการเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจและระบบสวัสดิการสังคม ด้วยมาตรการเพิ่มเงินบำนาญรายเดือนขึ้นต่ำจาก 109,704 เปโซ หรือราว 4580 บาท เป็น 131,499 เปโซ หรือราว 5490 บาทเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และลดอัตราค่าไฟฟ้าลง 92% ภายในเดือนหน้า รวมถึงประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวในเขตเมืองหลวง
นายเซบาสเตียน ปิเญรา ประธานาธิบดีชิลี ประกาศระงับแผนการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน หรือไม่ถึง 1 วัน หลังจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านแผนดังกล่าวอย่างรุนแรง และการระงับการบริการรถไฟใต้ดินในกรุงซานติอาโก
นายปิเญรากล่าวว่า รัฐบาลจะระงับแผนการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน จนกว่าจะมีการหาข้อสรุปถึงระบบที่สามารถปกป้องประชาชนของประเทศได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ จากปัญหาค่าเงินดอลลาร์และราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การประกาศครั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะช่วยยับยั้งการประท้วงและการจลาจลอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
ทั้งนี้ กำลังทหารได้ออกลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงซานติอาโก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองแบบเผด็จการทหาร ของนายพลออกุสโต ปิโนเชต์ เมื่อปี 2533 เพื่อรักษาความสงบ หลังจากเมื่อวันจันทร์ของสัปดาห์ที่แล้ว นักศึกษาหลายร้อยคนก่อเหตุความไม่สงบในสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งในกรุงซานติอาโก เพื่อประท้วงแผนขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 4 ของรัฐบาล
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นโดยกลุ่มนักศึกษาหลายพันคนจุดไฟเผาและสร้างความเสียหายแก่สถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีตำรวจได้บาดเจ็บ 156 นาย และประชาชนได้รับบาดเจ็บ 11 ราย รวมถึงมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 300 คน
รัฐบาลระบุว่า การขึ้นค่าโดยสารเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น, ค่าเงินในประเทศที่อ่อนค่าลง และการซ่อมบำรุง ขณะที่ชิลีไม่สามารถผลิตน้ำมันได้เอง ทำให้ต้องนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการขนส่งสาธารณะที่เพิ่มขึ้น
