ประเด็นน่าสนใจ
- ศาลจังหวัดชลบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ‘คดีลุงวิศวะ’ ยิงนักเรียน ม.4 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 จังหวัดชลบุรี
- ล่าสุดวันนี้ ศาลได้พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งสาม
- คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนฯแล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท
- โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี
ศาลจังหวัดชลบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในที่พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ และนางสาวมณีพร ผึ้งผาย เป็นโจทก์ร่วม ฟ้อง นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จากกรณีที่ใช้ปืนยิงนายนวพลหรือปอนด์ ผึ้งผาย ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่บริเวณแยกครกใหญ่ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
คดีนี้นายสุเทพรับสารภาพในความผิดฐานพาอาวุธปืนฯ ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า มีความผิดฐานพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามฟ้อง ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 4000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2000 บาท พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง
ต่อมาในชั้นอุทธรณ์ ศาลพิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งสาม เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืน แล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ให้จำเลยไปเข้ารับการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนและให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 30 ชั่วโมง
ในส่วนศาลฎีกาพิเคราะห์ ว่ามูลเหตุคดีเริ่มต้นเมื่อพวกของผู้ตายจอดรถยนต์ตู้ซ้อนคันกับรถยนต์ โดยไม่ได้สนใจว่ารถยนต์ของจำเลยที่จอดริมฟุตบาทจะออกไปได้หรือไม่ เมื่อภรรยาของนายสุเทพแจ้งให้ทราบว่ารถยนต์ของจำเลยกำลังจะออก แต่พวกของผู้ตายไม่ขยับให้ กลับบอกให้รอก่อน การจอดรถซ้อนคันขวางทางออกถนนของรถยนต์คันอื่น ทั้งมิยอมรีบขยับรถให้รถคันที่ตนจอดขวางอยู่ออกไปได้ มิใช่เรื่องที่คนทั่วไปกระทำกัน
“ศาลได้พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนฯแล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี”
ด้านทางฝ่ายทนายและมารดาของผู้ตายได้เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า ก็ไม่มีอะไรแล้ว มันนานมาแล้วก็ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล ส่วนทางแพ่งก็เหมือนเดิม ต้องชดใช้ และวันนี้คำพิพากษาก็เป็นไปตามที่ศาลพิจารณา การที่นายสุเทพไม่มาก็มีการปรับไปแล้ว ส่วนทางแพ่งก็รอดูว่าจะมาชดใช้เมื่อไหร่ เพื่อให้เป็นไปตามอำนาจศาล