ประเด็นน่าสนใจ
- ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ ตามจับอดีต เสธ.ทหาร และภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล
- พฤติกรรมการหลอกลวงคือ ผู้ต้องหาเปิดโรงเรียนกวดวิชาจ่าอากาศ เมื่อผู้เสียส่งบุตรหลานเข้าเรียน ทางผู้ต้องหาได้อ้างว่า สามารถฝากบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนจ่าอากาศ
- มีการเรียกรับเงินค่าดำเนินการ 650,000 บาท
ผู้ปกครองของ 2 ครอบครัว ไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อ เดินทางเข้าร้องทุกข์จากตำรวจกองบังคับการปราบปรามให้ติดตามตัว อดีต เสธ.ทหาร และภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อตอนปี 2558 ตนได้ส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนกวดวิชาจ่าอากาศ ซึ่งผู้ต้องหาและภรรยาเป็นเจ้าของ ที่สายไหม 34 เมื่อเข้าไปเรียน นาวาอากาศโท นายนี้ซึ่งเป็นผู้สอน กลับอ้างว่า สามารถฝากบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนจ่าอากาศได้ โดยเรียกเงินค่าดำเนินการ 650,000 บาท โดยให้จ่ายเป็นเงินสด
และได้แอบอ้าง จะดำเนินการให้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่เขียนใบสมัครจนได้เรียน ยอมรับว่าตนหลงเชื่อ เนื่องจากได้ไปตรวจสอบแล้วก็พบว่าทหารนายนี้ มีตำแหน่งเป็นข้าราชการเป็นทหารอากาศจริง และเท่าที่ทราบ มีผู้ปกครองรายอื่นหลงเชื่อ เพราะเห็นเอกสารการสมัครเยอะมาก
สามารถติดต่อผู้ปกครองรายอื่นมารวมกันได้ก็ 4 คน และที่จังหวัดพิษณุโลกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่จ่ายเงินไปแล้ว แต่สุดท้ายลูกก็ไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนจ่าอากาศ
โดยเฉพาะลูกสาวของตนไม่มีแม้แต่ชื่อลงสมัครสอบคัดเลือก เพราะอดีตทหารคนนี้อ้างว่าไม่ต้องทำอะไรเลย แม้แต่ใบสมัครก็ไม่ต้องกรอกเขาจะทำให้ทุกขั้นตอน
หลังเกิดเหตุได้แจ้งความนายทหารคนดังกล่าวและภรรยา จนเป็นคดีความและศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาเมื่อปี 2559 แต่นายทหารคนดังกล่าวไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายจับ
เมื่อพยามยามติดต่อไปทางผู้ต้องหาก็พยายามไกล่เกลี่ย จะขอชดใช้คืนเงินให้เป็นรายเดือน โดยส่งคืนเพียงเดือนเดียว เป็นเงิน 20,000 บาท จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
