ประเด็นน่าสนใจ
- แอ๊ด คาราบาวโพสต์ไม่เห็นด้วย อเมริกายกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรไทย
- มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง สธ. ประกาศแบนสารเคมี 3 ชนิด
- การโพสต์ของความของแอ๊ด คาราบาว ทำให้คนคิดว่าเจ้าตัวแบนไม่ใช้สินค้าสหรัฐ
- เจ้าตัวจึงโพสต์แจงว่าไม่ได้แบนสินค้า แค่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสหรัฐที่ระงับสิทธิพิเศษทางภาษีกับไทย
จากกรณีที่ศิลปินนักร้องชื่อดัง แอ๊ด คาราบาว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสหรัฐฯ ที่ตัดสิทธิ์ยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) แก่ประเทศไทย โดยอ้างว่า ไทยปกป้องสิทธิแรงงานให้อยู่ในระดับสากลไม่ได้
ก่อนที่เวลาต่อมาศิลปินดัง จะแต่งเพลง และเชื่อว่าการแบนไทยของสหรัฐครั้งนี้เป็นผลมาจากการตอบโต้ที่ไทยแบนสารเคมี 3 ชนิด แม้สหรัฐอ้างเหตุผลเรื่องสิทธิแรงงานก็ตาม ทำให้มีแฟนคลับและพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนไม่น้อยส่งต่อข้อความของ แอ๊ด คาราบาว โดยมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พร้อมกับเชื่อว่า เขาได้เชิญชวนให้แบนสินค้าจากสหรัฐฯ นั้น
ล่าสุดทาง แอ๊ด คาราบาว ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Add Carabaoโดยเขายืนยันว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องชวนให้ไม่สนับสนุนสินค้าจากอเมริกาเป็นการตอบโต้ แต่เป็นเพียงความโกรธที่เขาเอาเปรียบรังแกประเทศเล็กกว่าอย่างเราเท่านั้นเอง ซึ่งข้อความที่แอ๊ด คาราบาว โพสต์ระบุว่า
ผมได้รับบทความเตือนมาจาก ศจ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ด้วยความหวังดี เมื่อได้อ่านเเล้วก็หูตาสว่างขึ้น จึงอยากส่งต่อให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วย นิสัยเราอารมย์ร้อนของขึ้นง่ายๆ เลยบางทีก็เผลอไผลตามกระเเสไปกับเขาด้วย 55555
ผมขอย้ำตรงนี้นะครับพี่น้องสื่อมวลชนที่เอาเรื่องผมไปโยงไปลงว่าผมชักชวนคนไทยเเบนสินค้าอเมริกานั้นไม่เป็นความจริงนะครับ ผมแสดงจุดยืนชัดเจนมาตลอดเรื่องกัญชาเป็นยารักษาโรค กับ ไม่อยากตายผ่อนส่งเพราะสารพิษในการทำเกษตร
สาเหตุเพราะกลัวตายกลัวเจ็บป่วยครับ เวลานี้จะกินผักผลไม้เเต่ละครั้งต้องล้างเเล้วล้างอีก แต่พอทราบมาว่าล้างอย่างไรก็ไม่ออกทำให้แทบไม่อยากจะกินเลยถ้าไม่จำเป็น ผมจึงออกมาสู้ 2 เรื่องคือกัญชาเป็นยารักษาโรค และไม่เอาสารพิษ ควบคู่กันไป
เเน่นอนครับมันต้องมีอันไปเกี่ยวข้องกับอเมริกาเพราะเขาเป็นต้นตอของทั้งสองเรื่องตามที่ได้ศึกษามาครับ… จึงขอกราบเรียนมาถึงทุกๆ ท่านว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องแบนสินค้าอเมริกาอย่างที่เป็นกระเเสครับ แค่โกรธที่เขาเอาเปรียบรังแกประเทศเล็กกว่าอย่างเราเท่านั้นเอง ตามนี้นะครับพี่น้อง
กรณี GSP อย่าตื่นตูมมากไป และ อย่าปั่นกระแสจนเกินเหตุ แล้วพวกที่กระโจนใส่ท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ลืมอะไรไปหรือเปล่า?
- โดยหลัก ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษ
- ส่วนกรณีสิทธิด้านแรงงานตามกล่าวนั้น อเมริกาและไทยเจรจากันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2556 ที่สมาพันธ์แรงงานUSAยื่นหนังสือร้องเรียน (ตอนนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์)
- ส่วนเรื่อง GSP (สิทธิด้านภาษี) เราได้รับสิทธินี้เป็นพิเศษมาตั้งแต่ปี 2519 และเราก็ใช้สิทธินี้อย่างเต็มที่มาเรื่อยๆซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับเป็นพิเศษ
- การทบทวนเพิ่มหรือลดสิทธิพิเศษทางภาษี GSP เป็นกระบวนการปกติที่มีการเจรจาและทำกันมาอยู่ตลอด (เราได้สิทธิ 3,500 รายการแต่เราใช้เพียง 1,285 รายการเท่านั้นเพราะนอกจากนั้นเราไม่ได้ผลิตหรือไม่ได้ส่งUSA)
- ต้องแก้ไขข่าวที่สื่อลงนิดหนึ่ง คือ ตัวเลข 40,000 ล้านบาท ที่สื่อฯลงนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกตัดสิทธิ (อันนั้นเป็นตัวเลขโดยรวมของการส่งออกUSAใน 573 รายการ) แต่ตัวเลขที่ถูกตัดคือสิทธิด้านภาษี ก็คือ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 ล้านบาทเท่านั้น (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกไปUSAต้องจ่ายเป็นภาษีศุลกากรเขาและเป็นกรณีภาษีที่เรายังมีโอกาสในการเจรจาซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือนจากนี้ ซึ่งการเจรจานี้ก็เป็นเรื่องปกติสามารถทำได้ตามฟอรัมต่างๆที่เราจะได้เจอเขาโดยเฉพาะในต้นเดือนพย.นี้)
- มาตรการรองรับจากกระทรวงพาณิชน์ โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ได้ให้นโยบายตั้งแต่ต้นโดยเป็นมาตรการรองรับสงครามการค้าและมาตรการเชิงรุกด้านตัวเลขส่งออกอยู่แล้ว คือ เราเน้นฟื้นตลาดเก่า เพิ่มตลาดใหม่ รุกตลาดยุโรปและอื่นๆ รวมทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย จีน อินเดีย เป็นต้น และเพิ่มมูลค่าทางสินค้าโดยการปรับเปลี่ยนเพิ่มคุณภาพและนวัตกรรมต่อไป
- ภาพรวมที่ผ่านมา การส่งออกไป USA นั้นไทยเราได้ดุลการค้า ในสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ และกลุ่มอาหาร