ประเด็นน่าสนใจ
- ผู้ปกครองท่านหนึ่งโพสต์เรื่องราวลูกสาววัย 5 ขวบ ถูกครูตีจนเป็นรอยช้ำที่แขน 2 ข้าง เหตุผลที่หนูน้อยถูกตีเป็นเพราะว่า ตอบครูไม่ได้
- ผู้เป็นแม่ไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้โรงเรียนไล่ครูออก
- แม่เด็กยืนยันไม่ได้ต้องการค่าเสียหาย ขณะนี้ให้ลูกย้ายโรงเรียนแล้ว
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2562 คุณแม่ท่านหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวของบุตรสาววัย 5 ขวบ ถูกครูลงโทษด้วยการตีจนเป็นรอยฟกช้ำ แม่เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2562 ลูกสาวของตนถูกทำโทษเพราะตอบคำถามครูไม่ได้ ในวันเกิดเหตุขณะที่แม่ไปรับลูกครูได้ขอโทษและได้บอกว่า เขาได้ตีลูกสาวของตน
ตอนเห็นครั้งแรกตกใจเพราะร่องรอยฟกช้ำชัดชัดเจนมาก เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้ตรวจเช็คพบว่า ลูกมีรอยช้ำบนแขนทั้ง 2 ข้าง ทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกเจ็บปวด
เรื่องที่เกิดขึ้นได้เรียกร้องความเป็นธรรมกับทางโรงเรียนไปแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ผู้เป็นแม่ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการค่าเสียหายแต่อย่างใด ต้องการให้ครูคู่กรณีถูกลงโทษ เบื้องต้นคือขอให้ออกจากโรงเรียนที่ทำการสอนอยู่ หลังเกิดเรื่อง ลูกของตนมีความหวาดกลัวไม่อยากไปโรงเรียนอย่างเห็นได้ชัด
ผู้โพสต์ระบุข้อความไว้ดังนี้
11 ก.ย.62
วันที่เกิดเรื่อง ลูกสาวแม่ถูกตีเพราะเรียนช้าและตอบครูไม่ได้ ตอนที่เห็นคือตอนเย็นไปรับลูก ครูเดินมาส่งพร้อมพูดว่าตีลูกสาว มาขอโทษ ซึ่งตอนนั้นแม่เห็นก็ตกใจนะคะเพราะเป็นรอยช้ำเห็นชัดมาก แต่เห็นแค่ข้างเดียว และเวลานั้นแม่ต้องรีบมารับหลานอีกที่หนึ่งเพราะว่าช้ามากแล้ว ถึงบ้านเกือบ 18.00 น.
ซึ่งแม่เพิ่งเห็นว่ามีรอยช้ำทั้ง 2 ข้าง แม่ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเลยค่ะ ทักไปถามครูทันทีว่า น้องเรียนช้าตอบไม่ได้ ครูตีน้องขนาดนี้เลยเหรอคะ ซึ่งคำตอบคือใช่ และก็คำขอโทษจากครู ในเวลานั้นยังไม่ได้บอกสามีเพราะเรายังตั้งสติไม่ได้ค่ะ
12 ก.ย.62
แม่ได้โทรบอกสามีในตอนเช้าว่าลูกโดนตีนะ พอสามีรู้ก็บอกว่าเดี๋ยวจะรีบกลับมาหาลูก เนื่องจากสามีทำงานไกล สายๆ แม่ก็เดินทางไปโรงเรียนก่อน ไปขอพบ ผอ. ซึ่งครั้งแรกแม่ไป เพื่อจะขอย้ายห้องให้ลูก มีครูคอยรับเรื่อง และนัด ผอ. ในครั้งต่อไป
เมื่อแม่ออกมาจากโรงเรียน ได้คุย ได้ถามลูก คุยกับเขา และก็คิดตามไปด้วยว่า เราจะย้ายห้องจริงๆ เหรอ แล้วลูกเราจะกลัวไหม สถานที่เดิมๆ ยังต้องเจอครูที่ตีเค้าอีก ในตอนนั้นมองหน้าลูก สติแม่มาเลยค่ะ ไม่ค่ะ ไม่เอาลูกไว้แน่ๆ เพราะยังไงลูกเรากลัวแน่นอน เพราะตอนที่ขับรถเข้าโรงเรียน ลูกก็ร้องบอกแม่ว่าหนูไม่ไป หนูกลัวครูตีหนูค่ะแม่ แม่บอกสามีในตอนนั้นเลยว่าจะย้ายโรงเรียนแน่นอน ไม่ให้ลูกเรียนที่นี่แน่ๆ
สามีให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากมีเหตุการณ์อะไรเราจะได้มีหลักหลักฐานว่า เคยเกิดเหตุการณ์นี้จริง เราไปลงเรียบร้อย หลังจากนั้นเย็นๆ ครูประจำชั้นก็โทรมาถามว่าน้องเป็นยังไง และก็ขอโทษ ซึ่งตอนนั้นแม่บอกว่า หลังจากนี้แม่ขอทำตามความถูกต้องของแม่แล้วกัน
พอวางสายแล้ว ผอ. โรงเรียนก็โทรมาคุยและขอโทษ พร้อมบอกว่าจะเอากระเช้ามาให้ที่บ้าน ซึ่งแม่ปฏิเสธไป พร้อมบอกว่าสามียังไม่มา ถ้ามาก็เจอแม่แค่คนเดียว แม่ขอไปพบ ผอ. พร้อมสามีในวันพรุ่งนี้ดีกว่าค่ะ
13 ก.ย.62
ในตอนเช้า สามีให้ไปเก็บหลักฐานมาโรงพยาบาล ว่าเกิดรอยช้ำจากการโดนตีจริง หลังจากนั้นแม่กับสามีก็เข้าไปพบ ผอ. และผู้ใหญ่ทางโรงเรียนอีกหนึ่งท่าน ซึ่งแม่ถามว่าทางโรงเรียนว่าควรจัดการเรื่องนี้ยังไงคะ ทางโรงเรียนตอบกับแม่ว่า ให้ครูลาออกค่ะ และมีผลใน 30 วัน ซึ่งแม่พอใจในคำตอบ เพราะอย่างน้อยถ้าครูออก เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดกับเด็กคนอื่นอีก
ซึ่งทางแม่ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเป็นที่พอใจแล้ว จึงรอเวลา และในระหว่างที่รอเวลานั้น แม่ได้อยู่กับลูกและคอยคุยคอยถามตลอด พูดให้เขารู้สึกปลอดภัยและตอบแม่ให้มากที่สุด ลูกบอกว่าถูกครูตีบ่อยเพราะตอบครูไม่ได้ ครูว่าหนูโง่ หนูไม่มีสมอง แม่ขาหนูมีสมอง สมองหนูอยู่ตรงนี้ พร้อมชี้ไปที่หัว และบอกอีกว่าหนูก็มีหัวใจด้วยค่ะแม่
คนเป็นแม่ได้ยินแบบนี้หัวใจสลายไหมคะ เราส่งลูกไปเรียนเพื่อที่จะเรียนรู้ เปิดศักยภาพของเด็กว่าตรงไหนดี ตรงไหนด้อย ไม่ใช่ให้ไปเพื่อถูกตีอย่างรุนแรง สภาพจิตใจของเด็กล่ะคะ คุณคิดไหม ว่าเขาจะจำไปอีกนานแค่ไหน ละลูกพูดทุกวันนะคะว่าครูทำอะไรบ้าง แม่ก็เฝ้ามองพฤติกรรมของลูกตลอดค่ะ
29 ต.ค.62
และในวันนี้ แม่โทรไปที่โรงเรียน เพื่อขอดูใบลาออกของครู ที่ทางโรงเรียนรับปากไว้ว่า 30 วัน ซึ่งได้คำตอบว่ารอดำเนินการอยู่ค่ะ? ซึ่งจากวันเกิดเหตุ 11 ก.ย.62-29 ต.ค.62 ถึงวันนี้คือ 48 วัน หากนับจากวันที่คุยกับทางโรงเรียนถึงวันนี้คือ 13 ก.ย.62-29 ต.ค.62 ก็เป็นเวลา 46 วัน
มันนานเกินไปไหมคะ และแม่เองก็เป็นฝ่ายตามเรื่องตลอดนะคะ ทางโรงเรียนไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงคะ?
ตอนนี้คุณจะออกหรือไม่ออกก็ไม่สำคัญกับแม่แล้วค่ะ แม่ขอตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้แทนแล้วกันนะคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น และขอรับรองว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริงไม่ได้โกหกใดๆทั้งสิ้น ที่แม่ลงเพราะแม่ไม่อยากให้เกิดกับลูกใครจริงๆ มันเจ็บปวดทุกครั้งที่ลูกพูดถึง
มันทำร้ายความรู้สึกของแม่ตลอดในวันที่รู้ว่าลูกถูกตีหนักขนาดนี้ ไม่ว่ากับลูกของใครก็ไม่ควรโดนตีแบบนี้
แม่ขอไม่กล่าวชื่อโรงเรียนและชื่อครูนะคะทุกคน ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของแม่ เพราะกว่าแม่จะลงเรื่องนี้ผ่านการคิดมาตลอด 48 วัน ซึ่งมันเพียงพอกับการที่แม่ให้เวลากับโรงเรียนแล้วค่ะ
ปล 1.ขอให้ทุกคนคอมเมนท์ไม่เอ่ยชื่อโรงเรียนด้วยนะคะ ด้วยรักและปรารถนาดีจากแม่ค่ะ
ปล 2.แม่ย้ายน้องออกทันทีที่เกิดเรื่องค่ะทุกคน
ปล 3..บางเมนท์บอกว่าถ้ามีกำลังทรัพย์ควรเลือกที่ดีๆ ให้ลูก แม่เลือกแล้วค่ะ ลูกเรียนเอกชน 2 ภาษาค่ะ เลือกเพราะคิดว่าลูกจะเจอสิ่งดีๆค่ะ
ปล 4.ตอนนี้น้อง 5 ขวบ อยู่อนุบาล 2 ค่ะ