คดียาเสพติด คดีแพะ หนุ่มแพะ

ศาลยกฟ้อง!! ‘หนุ่มแพะคดียา’ ยื่นฟ้อง สตช. เรียกค่าเสียหาย 30 ล.

[อัพเดท] ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน รับฟังได้ว่าตำรวจชุดจับกุมทั้ง 8 นายจะทำการไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หาได้มีการกลั่นแกล้ง หรือจะทำการละเมิด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ส่วนคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ให้ยกฟ้อง โจทก์ในคดีครอบครองยาเสพติดนั้นถือเป็นดุลพินิจของศาล ยกประโยชน์จากเหตุอันควรสงสัยให้จำเลย จึงนำมาอ้างเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง และยึดค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงิน…

Home / NEWS / ศาลยกฟ้อง!! ‘หนุ่มแพะคดียา’ ยื่นฟ้อง สตช. เรียกค่าเสียหาย 30 ล.

ประเด็นน่าสนใจ

  • หนุ่มถูกตำรวจจับในข้อหายาเสพติด ขณะไปติดต่อซื้อไก่ชนจากสาวรายหนึ่ง เมื่อปี 57
  • หลังตรวจค้นบ้านสาวคนดังกล่าว พบยาบ้ากว่า 700 เม็ด จึงแจ้งข้อหาหนุ่มที่ไปซื้อไก่ชนด้วย ถูกซ้อมบังคับให้รับสารภาพ
  • คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานขัดกับข้อเท็จจริง
  • หนุ่มกลายเป็นแพะในคดียาดังกล่าว ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 30 ล้านบาท
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง ชี้ตำรวจ 8 นาย ปฏิบัติตามหน้าที่

[อัพเดท]

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน รับฟังได้ว่าตำรวจชุดจับกุมทั้ง 8 นายจะทำการไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หาได้มีการกลั่นแกล้ง หรือจะทำการละเมิด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ส่วนคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ให้ยกฟ้อง โจทก์ในคดีครอบครองยาเสพติดนั้นถือเป็นดุลพินิจของศาล ยกประโยชน์จากเหตุอันควรสงสัยให้จำเลย จึงนำมาอ้างเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง และยึดค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงิน 200,000 บาท

ทั้งนี้ นายธนากร บิดา นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง กล่าวว่า คดีนี้ เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า หากประชาชนมีปัญหากับตำรวจจะเจอกับเหตุการณ์อย่างไร ทั้งที่พยานหลักฐานก็ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องเวลาที่ถูกตำรวจจับกุมไม่สอดคล้องกลับหลักฐานที่ตำรวจทำสำนวน คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ก็ระบุชัดถึงความผิดปกติ และให้เหตุผลถึง 9 ประการ

แต่เมื่อศาลแพ่งพิพากษาออกมาเป็นเช่นนี้ก็ต้องยอมรับและเสียใจ ยืนยันว่าจะพยายามหาทางต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง ที่ผ่านมาต้องเสียเงินในการต่อสู้คดี รวมถึงถูกยึดค่าธรรมเนียมศาลแพ่งในวันนี้ (30 ต.ค.) อีก 200,000 บาท รวมแล้วเสียค่าต่อสู้คดีไปเกือบ 2,000,000 บาท โดยอยากจะยื่นอุทธรณ์ เพื่อพิสูจน์ความจริงต่อ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาเงิน มาวางค่าธรรมเนียมศาลจากที่ไหน

อย่างไรก็ตาม นายราชศักดิ์  กล่าวว่ารู้สึกเสียใจมาก คดีนี้ตนต้องถูกจำคุกในเรือนจำ 1 ปีทั้งที่ไม่มีความผิด ต้องสูญเสียหน้าที่การงาน เสียทรัพย์สิน และธุรกิจไก่ชน ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะพูดไม่ออก เราเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาจึงสู้เขายากลำบาก


วันนี้ (30 ต.ค.62) ที่ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง หนุ่มแพะถูกตำรวจ ปส.ภ.จว.ปราจีนบุรี ยัดยาจำนวนกว่า 700 เม็ด พร้อมรูดทรัพย์ เมื่อปี 2557 จนต้องติดคุกกว่า 1 ปี และท้ายที่สุดศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง โดยคดีดังกล่าวผู้เสียหายฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 30 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.57 นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราจีนบุรี จับกุมในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ขณะกำลังซื้อไก่ชนจากหญิงสาวรายหนึ่ง โดยทางตำรวจได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของหญิงสาวรายดังกล่าวพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่กว่า 700 เม็ด

โดยนายราชศักดิ์ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว แต่กลับถูกซ้อมและบังคับให้รับสารภาพ พร้อมถูกกลุ่มเจ้าที่หน้าชุดจับกุมนำทรัพย์สินที่ติดตัว เกือบ 1 แสนบาทไปด้วย ต่อมาในปี 58 ศาลชั้นต้นได้พิพากษา จำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา กระทั่งในปี 59 ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้อง และในปี 61 ศาลฎีกาก็มีคำพิพากษา ยกฟ้องเช่นกัน เนื่องจากพยานหลักฐานขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ นอกจากนี้ในช่วงตลอดระยะเวลาการต่อสู้คดี นายราชศักดิ์ ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกว่า 1 ปี

โดยในวันนี้นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายธนากร เจริญรุ่งเรือง บิดา เพื่อรับฟังคำพิพากษาในคดีฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง