ประเด็นน่าสนใจ
- นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง
- สั่งการให้ท่าอากาศยานดำเนินการใช้ระบบ CCTV เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ในการระบายผู้โดยสารเข้าช่องตรวจ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางสาวดุจดาว เจริญผล ผู้ตรวจราชกระทรวงคมนาคม ตรวจติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจพื้นที่ที่ปรับปรุงตามแผนแก้ปัญหาความแออัดในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วย การบริหารระบบอาคารจอดรถ 7 ชั้น จุดตรวจผู้โดยสารขาเข้าและขาออก จุดให้บริการขอตรวจลงตราวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ (VOA) พร้อมรับฟังรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่ ตรวจทางเลื่อนชั้น 2 ที่มีกรณีผู้โดยสารร้องเรียน ตรวจพื้นที่ Bus Gate ระหว่างประเทศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาความแออัดในอาคารผู้โดยสารตามที่ได้มีข้อสั่งการไว้ โดยสั่งการให้ท่าอากาศยานดำเนินการใช้ระบบ CCTV เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ในการระบายผู้โดยสารเข้าช่องตรวจ พร้อมทั้งให้อำนวยความสะดวกผู้โดยสารระหว่างรอคิว โดยที่ผู้บริหารสามารถเข้าตรวจสอบและสั่งการผ่านระบบดังกล่าวได้ทันที
สำหรับอาคารจอดรถให้เร่งดำเนินการใช้ระบบอัตโนมัติในระยะเร่งด่วนใน 1 เดือน ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มระบบในปี 2563 ส่วนการแก้ปัญหาในส่วนผู้โดยสารขาออกให้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ในการช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ทั้งนี้ เน้นย้ำให้การดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และอยู่บนมาตรการความปลอดภัยสากล
ท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี
ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี แต่อาคารสนามบินมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งจากการศึกษาปัญหาความแออัดพบว่าเกิดปัญหาคอขวดในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าบริเวณจุดบริเวณตรวจสอบหนังสือเดินทาง และพื้นที่จัดทำแบบการขอตรวจลงตราวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ (VOA) โดยได้มีการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนด้วยการเพิ่มพื้นที่ให้บริการ VOA พร้อมการให้บริการเชิงรุกเพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสาร
สำหรับผู้โดยสารขาออกได้มีการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนประกอบด้วย การเพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอินในอาคารผู้โดยสาร 1 จำนวน 16 เคาน์เตอร์ จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการเช็คอินร้อยละ 15 มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2562 และการขยายพื้นที่ Bus Gate ระหว่างประเทศ นอกจากนี้การแก้ปัญหาระยะต่อไปท่าอากาศยานจะมีแผนการสร้างอาคารรองรับผู้โดยสารสำหรับกรุ๊ปทัวร์ เพิ่มพื้นที่รอตรวจหนังสือเดินทาง เพิ่มช่องตรวจผู้โดยสารระหว่างประเทศ 4 ช่อง รวมเป็น 12 ช่อง
มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 และเพิ่มพื้นที่จัดทำแบบการขอ VOA เพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางอีก 12 ช่องตรวจ รวมเป็น 51 ช่องตรวจ มีกำหนดแล้วเสร็จเดือน ก.ย. 2563 ทั้งนี้จากการดำเนินการทั้งหมดจะสามารถทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารทั้งขาเข้าขาออกทั้ง 40 ล้านคนต่อปี เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น