ประเด็นน่าสนใจ
- วิกฤตไฟป่าอะเมซอนในประเทศบราซิลสร้างความเสียหายวงกว้าง
- นอกจากส่งผลกระทบต่อประเทศบราซิลแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อประเทศใกล้เคียงด้วย
- มีการกล่าวถึงหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าอะเมซอน ว่ามาจากการตัดไม้ทำลายป่า
วิกฤตไฟป่าอะเมซอนในพื้นที่ของบราซิลสร้างความเสียหายใหญ่หลวง โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือรัฐโฮไรมา, รัฐอาเกร, รัฐฮงโดเนีย และรัฐอะมาโซนาส ทางตอนเหนือของบราซิล
พื้นที่รัฐดังกล่าวมีจำนวนการเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยรัฐโฮไรมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 141, รัฐอาเกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 138, รัฐฮงโดเนียเพิ่มขึ้นร้อยละ 115 และรัฐอะมาโซนาสเพิ่มขึ้นร้อยละ 81 นอกจากนี้รัฐอะมาโซนาส ซึ่งใหญ่ที่สุดในบราซิล ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้วย
สถาบันวิจัยสภาพแวดล้อมป่าอะเมซอน หรือ IPAM ระบุว่า จำนวนการเกิดไฟป่าอะเมซอนที่เพิ่มขึ้น มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตัดต้นไม้โดยเจตนาและไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างรุนแรง
สถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล หรือ INPE ระบุว่า ข้อมูลรายเดือนแสดงให้เห็นถึงขนาดของพื้นที่ที่ถูกตัดไม้เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกรกฎาคม โดยมากกว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วในสัดส่วนเกือบร้อยละ 278
หน่วยงานตรวจสอบชั้นบรรยากาศโคเปอร์นิคัส หรือ CAMS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสังเกตการณ์โลกของสหภาพยุโรป ระบุว่า กลุ่มควันที่เกิดขึ้นจากไฟป่าอะเมซอนลอยไปไกลถึงบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก โดยไฟป่านี้ปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมากถึง 228 ล้านตัน ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553
ส่วนประเทศอื่นซึ่งมีพื้นที่ป่าอะเมซอน ก็มีจำนวนการเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเวเนซุเอลามีจำนวนการเกิดไฟป่ามากกว่า 26,000 ครั้ง, โบลิเวีย 19,ooo ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 จากปีที่แล้ว ขณะที่เปรูมีจำนวนการเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 92
ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “ทิมเบอร์แลนด์”, “แวนส์” และ “เดอะ นอร์ธ เฟซ” บริษัทเสื้อผ้าและรองเท้าสหรัฐฯ ประกาศหยุดการซื้อหนังสัตว์จากบราซิล หลังบริษัทเผชิญคำวิจารณ์ว่ามีส่วนช่วยทำให้เกิดความเสียหายต่อป่าอะเมซอน