Hungry Hub จองร้านอาหาร อาหารบุฟเฟต์

‘Hungry Hub’ ธุรกิจสตาร์ทอัพ กับบริการจองร้านอาหาร ที่เอาใจสายบุฟเฟต์

เชื่อว่าหลายๆคนตอนนี้คงกำลังมองหาธุรกิจส่วนตัวทำ ซึ่งอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ คือ การทำธุรกจแบบ ‘Startup‘ ซึ่งเป็นการทำธุรกิจ ในจุดเริ่มต้นแบบขนาดเล็ก โดยใช้เทคโนโลยีด้านไอที ไม่ว่าจะเป็นการทำแอพพลิเคชัน หรือด้านโซเชียล ซึ่งเน้นการใช้ ‘ไอเดีย‘ เป็นหลักในการต่อยอดธุรกิจ วันนี้ MThai…

Home / NEWS / ‘Hungry Hub’ ธุรกิจสตาร์ทอัพ กับบริการจองร้านอาหาร ที่เอาใจสายบุฟเฟต์

ประเด็นน่าสนใจ

  • ธุรกจแบบ ‘Startup’ เป็นการทำธุรกิจในจุดเริ่มต้นแบบขนาดเล็ก โดยใช้เทคโนโลยีด้านไอที
  • ’Hungry Hub’ ให้บริการจองร้านอาหารแบบอลาคาร์ท แต่เป็นแบบบุฟเฟต์ ในราคาสบายกระเป๋า

เชื่อว่าหลายๆคนตอนนี้คงกำลังมองหาธุรกิจส่วนตัวทำ ซึ่งอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ คือ การทำธุรกจแบบ ‘Startup‘ ซึ่งเป็นการทำธุรกิจ ในจุดเริ่มต้นแบบขนาดเล็ก โดยใช้เทคโนโลยีด้านไอที ไม่ว่าจะเป็นการทำแอพพลิเคชัน หรือด้านโซเชียล ซึ่งเน้นการใช้ ‘ไอเดีย‘ เป็นหลักในการต่อยอดธุรกิจ

วันนี้ MThai ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณสิริศักดิ์ พลสิมมา ตำแหน่ง Business Development Manager ตัวแทนจาก ‘Hungry Hub‘ ซึ่งเป็นธุรกิจ ‘Startup‘ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานอาหารแบบ ‘บุฟเฟต์’

กว่าจะมาเป็น ‘Hungry Hub’ ถูกใจสายกินบุฟเฟต์

คุณสิริศักดิ์ พลสิมมา เปิดเผยว่า เมื่อปี 57 แรกเริ่มนั้น ‘Hungry Hub‘ ทำเป็นระบบจองร้านอาหารทั่วไปในกรุงเทพฯ ซึ่งระบบการจองจะคล้ายๆกับการจองที่พักโรงแรมตามแอพฯต่างๆ ในช่วงที่ทำแรกๆไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร ด้วยพฤติกรรมของคนไทย ประกอบกับร้านอาหารในเมืองไทยไม่ค่อยนิยมจองโต๊ะผ่านแอพฯ

จึงคิดว่าควรเปลี่ยนมาเป็นการทำโปรโมชั่น ซึ่งจากการสำรวจก็พบว่าส่วนใหญ่คนไทยจะชอบเรื่องโปรโมชั่น ซึ่งหากมองเป็นเรื่องของร้านอาหาร ก็จะนึกถึงในส่วนลด หรือโปรโมชั่นมา 2 แถม 1

แต่หากเราใช้โปรโมชั่นแบบนี้กับทางร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะไม่ชอบเรื่องโปรโมชั่นแบบนี้ ซึ่งมองว่าทางร้านจะอยู่กับเราไม่ได้นาน หรือพูดได้ง่ายๆว่าเป็น ‘โปรโมชั่นที่ไม่ยั่งยืน‘ ถึงแม้จะได้กลุ่มลูกค้าจำนวนมาก แต่รายได้ของทางร้านกลับลดลงเนื่องจากต้องมาลดราคาตามส่วนลดที่ตกลงกันไว้

จุดเปลี่ยนสำคัญของการเป็น ‘Hungry Hub’ เฉกเช่นทุกวันนี้

คุณสิริศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า จุดเริ่มต้นจริงๆในการทำระบบจองร้านอาหารบุฟเฟต์ เกิดมาจากในช่วงที่ทีมงานไปทานร้านอาหารโดยมีการระบุงบไว้ แต่พอไปถึงร้านอาหารจริงๆกลับเกินงบที่ตั้งไว้ทำให้งบบานปลาย

ทางเราจึงมานั่งคิดว่าจะทำยังไงถึงจะคุมงบในการรับประทานอาหารได้ จึงมองไปถึงเรื่องอาหารบุฟเฟต์ แต่ก็คิดถึงข้อเสียในการทานอาหารบุฟเฟต์ นั่นก็คือคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการตักอาหารจนไม่มีเวลาในการคุยกันภายในโต๊ะอาหาร

จึงนำร้านอาหารที่อยู่ในระบบของ ‘Hungry Hub‘ ซึ่งเป็นร้านอาหารแบบอลาคาร์ท (à la carte) มาจัดโปรโมชั่นเป็นบุฟเฟต์ ซึ่งจะเป็นการนำอาหารเด็ดๆของแต่ละร้านมาจัดเป็นโปรโมชั่นบุฟเฟต์ในระยะเวลา 2 ชั่วโมงสำหรับการรับประทานอาหาร

ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีการจัดแพ็คเกจบุฟเฟต์แตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดความหลากหลายกับลูกค้าซึ่งทำให้เราสามารถวางคอนเซ็ปต์ โดยนึกถึงลูกค้าเป็นหลักในการคุมงบประมาณรายการรับประทานอาหาร

แนวทางด้านการตลาดของ ‘Hungry Hub’

วิธีการทำการตลาดของ Hungry Hub ซึ่งเราเป็นการให้บริการจองร้านอาหารผ่านทางออนไลน์อยู่แล้ว ซึ่งในยุคที่โซเชียลมีอิทธิพลต่อสังคม เราจึงนำบล็อกเกอร์กลุ่มคนรีวิวอาหารต่างๆ ซึ่งที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรากว่า 40 เพจเฟซบุ๊ก

โดยการนำกลุ่มคนรีวิวร้านอาหารเข้ามานั้น จะช่วยให้ผู้ที่สนใจเข้ามาใช้บริการ เกิดความน่าเชื่อถือต่อร้านอาหารนั้นๆ บวกกับโปรโมชั่นที่ทางเราได้ตกลงไว้กับร้านอาหารแล้วนั้น จึงยิ่งทำให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ณ ปัจจุบันนี้ กลุ่มลูกค้าที่เข้ามากใช้บริการของ ‘Hungry Hub‘ ส่วนใหญ่เกือบ 90% จะเป็นคนไทย ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ ซึ่งทางเรามีร้านอาหารที่เข้าร่วมเกือบ 200 ร้าน ทำให้เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้บริการ

ซึ่งในตอนนี้เราเน้นเจาะกลุ่มร้านอาหารในกรุงเทพฯเป็นหลัก แต่ในอนาคตพร้อมต่อยอดขยายไปตามเมืองใหญ่ๆในแต่ภาค

ร้านอาหารอยู่ได้…. เราก็อยู่ได้

การทำโปรโมชั่นของเราจะไม่ได้มองแค่ราคาถูก เพื่อเอาใจลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องนึกถึงร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเราด้วย เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น หากเราจัดโปรโมชั่นกระหน่ำลดราคาร้านได้จำนวนคนเยอะก็จริงแต่รายได้กลับลดลง เราจึงเน้นโปรโมชั่นที่ให้ทางร้านอยู่กับเราได้

โดยทุกสัปดาห์ทีมงานของ ‘Hungry Hub‘ จะมีการสอบถามไปยังร้านอาหาร เพื่อดูในส่วนของโปรโมชั่นที่ร้านอาหารเสนอเข้ามา ซึ่งเราจะมาดูว่าโปรโมชั่นเหมาะสมหรือไม่ เพื่อที่ร้านสามารถอยู่ได้ และให้โปรโมชั่นอยู่ในงบที่เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้า

คนที่อยากทำธุรกิจ ‘Startup’ ต้องรู้จักการแก้ไขปัญหา

คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจ Startups ควรเริ่มจากการลงมือทำและปฏิบัติจริงๆโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหา ซึ่งทาง Hungry Hub ก็เริ่มต้นมาจากการแก้ไขปัญหาการรับประทานอาหารที่ไม่สามารถคุมงบได้

จนเราสามารถแก้ไขปัญหาในจุดนี้ด้วยการทำเป็นการจองร้านอาหารแบบบุฟเฟต์ ซึ่งเป็นการนำร้านอาหารแบบอลาคาร์ท มาจัดโปรให้เป็นบุฟเฟต์ ซึ่งก็ต้องควบคู่ไปกลับการสร้างรายได้เข้ามาสู่ธุรกิจของตัวเองด้วยเช่นกัน มองว่าอย่าไปยึดติดกับแผนที่วางไว้เพราะว่าธุรกิจ Startups สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่ทุกวัน คุณสิริศักดิ์ พลสิมมา กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับใครที่สนใจใช้บริการของทาง ‘Hungry Hub’สามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่ www.hungryhub.com หรือบริการผ่านแอพพลิเคชัน ‘Hungry Hub’ สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ android และ ios