ประเด็นน่าสนใจ
- พายุระดับ 2 (ดีเปรสชั่น) คาจิกิ ได้พัดออกจากชายฝั่งเวียดนามมุ่งหน้าทะเลจีนใต้
- ผลกระทบที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยังคงทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง
- ผู้ที่จะเดินทางไปเวียดนาม จีนตอนใต้ ควรเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางอีกครั้ง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) “คาจิกิ” (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 4 กันยายน 2562)” ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 04 กันยายน 2562
เมื่อเวลา 04.00 น ของวันนี้ (4 กันยายน 2562) พายุระดับ2 (ดีเปรสชัน) “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางพายุอยู่ที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันออกเล็กน้อย อย่างช้าๆ ออกห่างจากประเทศเวียดนามเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้ ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
ในวันที่ 4 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนัก
- ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 2 (ดีเปรสชั่น) “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง