ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยกคำร้องธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้อง “ธนาธร” ขอเลิกคำสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องของผู้ถูกร้อง…

Home / NEWS / ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้อง “ธนาธร” ขอเลิกคำสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่

ประเด็นน่าสนใจ

  • ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขอเลิกคำสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
  • ศาลพิจารณาคำร้องเห็นว่า ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลง คำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม
  • การยกคำร้องดังกล่าว “ธนาธร” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ต่อไป

ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่

โดยที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องของผู้ถูกร้อง ที่ขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งโดยเร่งด่วนแล้ว เห็นว่ายังไม่ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลง คำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม จึงให้ยกคำร้องขอ

และต่อจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยว่า จะมีการไต่สวนพยานบุคคล โดยจะหมายเรียกพยานบุคคลใดและพยานเอกสารฉบับใดบ้าง กำหนดนัดอภิปรายต่อในวันที่ 11 ก.ย.

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องกรณีส.ส.32 ถือหุ้นสื่อ

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 33 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติรับคำร้องกรณี ส.ส.32 ราย เข้าข่ายถือเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อันขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3)

สำหรับคำร้องของผู้ร้องในส่วนของผู้ถูกร้องจำนวน 32 คน เห็นว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7(5)แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งรับคำร้องเฉพาะของผู้ถูกร้อง จำนวน 32 คน ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

สำหรับคำขอให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้อง “ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง” แต่ในคดีนี้ไม่มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจึงไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานอื่นใดให้ใช้เป็นฐานแห่งการพิจารณา คงมีเพียงหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทระบุวัตถุที่ประสงค์กับสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น

ซึ่งเป็นเอกสารประกอบคำร้องเท่านั้น ไม่ปรากฏแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัทฯ(แบบ สสช.๑) และแบบนำส่งงบการเงินของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากการประกอบกิจการใด
กรณีจึงยังไม่มีมูลให้เห็นว่าผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้ยุติเสียก่อน เมื่อยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้อง

จำนวน 32 คนมีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง