บิลลี่ พอละจี แก่งกระจาน

พบหลักฐานใหม่ในแฟลชไดร์ฟ ‘บิลลี่’ คาดอาจเป็นชนวนเหตุความขัดแย้ง

ภาพถ่ายของชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อุทยาน ใช้เลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งดีเอสไอตรวจสอบพบถูกบันทึกในแฟลชไดร์ฟของนายบิลลี่ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ชายในภาพเป็นหน้าที่อุทยานฯ จริงหรือไม่ และเป็นการตัดไม้พื้นที่ใด เนื่องจากก่อนเสียชีวิตนายบิลลี่ ได้ตรวจสอบร้องเรียนพฤติการณ์ร้องเรียนพฤติการณ์เจ้าหน้าที่หลายเรื่อง ภาพถ่ายการตัดไม้ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งชนวนเหตุของความขัดแย้ง ขณะเดียวกัน พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร​ รองอธิบดีดีเอสไอ…

Home / NEWS / พบหลักฐานใหม่ในแฟลชไดร์ฟ ‘บิลลี่’ คาดอาจเป็นชนวนเหตุความขัดแย้ง

ประเด็นน่าสนใจ

  • มีการเปิดภาพถ่ายในแฟลชไดร์ฟ์ของบิลลี่ เป็นชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตัดไม้ อาจเป็นอีกหนึ่งชนวนขัดแย้ง
  • ด้านภรรยาบิลลี่ มีความกังวลว่าจะมีผู้มีอิทธิพลทำให้เกิดการแทรกแซงคดี
  • ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด

ภาพถ่ายของชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อุทยาน ใช้เลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งดีเอสไอตรวจสอบพบถูกบันทึกในแฟลชไดร์ฟของนายบิลลี่ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ชายในภาพเป็นหน้าที่อุทยานฯ จริงหรือไม่ และเป็นการตัดไม้พื้นที่ใด เนื่องจากก่อนเสียชีวิตนายบิลลี่ ได้ตรวจสอบร้องเรียนพฤติการณ์ร้องเรียนพฤติการณ์เจ้าหน้าที่หลายเรื่อง ภาพถ่ายการตัดไม้ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งชนวนเหตุของความขัดแย้ง

ขณะเดียวกัน พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร​ รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ “มึนอ” ภรรยาของนาย “บิลลี่” ที่บ้านป่าเด็ง​ อำเภอแก่งกระจาน​ จังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งแจ้งให้ทราบว่า มึนอถือเป็นผู้เสียหายในคดี แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ก็เป็นภรรยาโดยพฤตินัย เป็นโจทก์ร่วมในคดีได้

ภรรยาบิลลี่ หวั่นมีผู้มีอิทธิพลทำให้เกิดการแทรกแซงคดี

ด้านภรรยาบิลลี่ กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีความกังวลว่าจะมีผู้มีอิทธิพลทำให้เกิดการแทรกแซงคดี และขอบคุณทางดีเอสไอที่หาโครงกระดูกสามีจนพบ จนนำมาสู่ขั้นตอนของการค้นหาผู้ลงมือ นอกจากนี้ มึนอยังยืนยันว่าวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงไม่มีการลอยอังคารลงในแม่น้ำ มีเพียงการฝังในป่า หากเป็นการเผาร่างโดยไม่นำกระดูกกลับมา

ด้านนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน ซึ่งย้ายมารับตำแหน่งแทนนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ระบุว่า จุดที่พบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูกบริเวณใต้สะพานแขวนไม้ เป็นพื้นที่ร่องน้ำหรือพื้นที่ปลายแหลม ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2559 ช่วงที่แล้งที่สุดก็ยังมีน้ำ แต่เรือไม่สามารถแล่นได้ โดยปกติอุทยานฯ มีการตั้งด่านตรวจนักท่องเที่ยวที่เข้าพักและบุคคลทั่วไปที่เข้าออกตลอดเวลา ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ บริเวณจุดเกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิด และยังไม่เคยพบมีการนำอัฐิมาลอยอังคารภายในอุทยาน

ด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ได้กำชับให้ดีเอสไอหาตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คาดว่าภายใน 3 เดือนจะได้ข้อยุติ เพราะไม่ว่าเป็นใครจะทำผิดกฎหมายไม่ได้ทั้งสิ้น ตนจะไปช่วยใครได้ กฎหมายว่าอย่างไร กระบวนการยุติธรรม กระบวนการสอบสวน วัตถุพยาน หลักฐาน ศาลตัดสิ้นอย่างไรก็ตามนั้น