กัญชง กัญชา ข่าวสดวันนี้

สธ.ยอมปรับแก้ประกาศสารทีเอชซีในใบช่อและดอกกัญชง

หลังมีประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเรื่องการกำหนดลักษณะกัญชงออกมา ที่มีการกำหนดว่ากัญชงที่ไม่ถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 ในใบและช่อดอกจะต้องมีปริมาณสารทีเอชซีไม่เกิน 0.5% ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงไปศึกษาเพื่อปรับแก้ในประกาศให้ส่วนของสารทีเอชซีในใบและช่อดอกจาก 0.5% เป็น 1% นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์…

Home / NEWS / สธ.ยอมปรับแก้ประกาศสารทีเอชซีในใบช่อและดอกกัญชง

ประเด็นน่าสนใจ

  • ก่อนหน้านี้มีประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเรื่องการกำหนดลักษณะกัญชง ให้ไม่ถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 ในใบและช่อดอกจะต้องมีปริมาณสารทีเอชซีไม่เกิน 0.5%
  • อนุทิน ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงไปศึกษาเพื่อปรับแก้ในประกาศให้ส่วนของสารทีเอชซีในใบและช่อดอกจาก 0.5% เป็น 1%

หลังมีประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเรื่องการกำหนดลักษณะกัญชงออกมา ที่มีการกำหนดว่ากัญชงที่ไม่ถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 ในใบและช่อดอกจะต้องมีปริมาณสารทีเอชซีไม่เกิน 0.5% ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงไปศึกษาเพื่อปรับแก้ในประกาศให้ส่วนของสารทีเอชซีในใบและช่อดอกจาก 0.5% เป็น 1%

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์ สำหรับประชาชนให้แก้ข้อกำหนดกัญชงในส่วนของสารทีเอชซี (THC) ในเมล็ดกัญชงจาก 0.3% และในใบและดอกกัญชงจาก 0.5% ให้เป็น 1%

โดยอาจกำหนดให้เป็นช่วงตั้งแต่ 0.2-1% ว่า จากข้อกังวลที่กำหนดลักษณะของกัญชงเช่นนี้แล้วจะไปเอื้อกลุ่มทุน โดยขอให้กลับไปเป็น 1% ตามข้อกำหนดเดิม ก็ได้มอบหมายให้ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปปรึกษากับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษในการปรับแก้ประกาศให้กลับไปที่ 1% ได้หรือไม่ เพื่อให้ทั้งกลุ่มทุน และชาวบ้าน เข้าถึงได้

นายอนุทิน ยืนยันว่าไม่ได้เอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เอาให้ผลสำเร็จตอนออกประกาศก็คิดแค่จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้คิดว่าเรื่องตัวเลข จะเป็นความผิดอะไร ส่วนเรื่องของการส่งออกยืนยันว่าก็ต้องทำตามมาตรฐานของต่างประเทศ หากกำหนดทีเอชซีไม่เกิน 0.2% ก็ต้องทำตาม แต่ทั้งหมดยืนยันว่าทำเพื่อการแพทย์