ครูเมืองนนท์เพาะเลี้ยง ‘ไส้เดือน’ หารายได้เสริมยึดหลักพอเพียง

หากพูดถึง ‘ไส้เดือน‘ อาจทำให้หลายๆ คนชวนขนลุกได้ ยิ่งนึกภาพตามแล้วลักษณะเป็นตัวนิ่มๆ ยาวๆ ชอนไชอยู่ในดิน บางคนเข้าขั้นกลัวเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้อย่างมาก แต่หารู้ไม่….? เจ้า ‘ไส้เดือน‘ ที่ว่ามานี้ มันส่งผลดีต้องระบบนิเวศน์อย่างมาก ในการทำหน้าที่ชอนไชภายในดินช่วยให้ดินร่วนซุยมากขึ้น ช่วยกำจัดซากพืช…

Home / NEWS / ครูเมืองนนท์เพาะเลี้ยง ‘ไส้เดือน’ หารายได้เสริมยึดหลักพอเพียง

หากพูดถึง ‘ไส้เดือน‘ อาจทำให้หลายๆ คนชวนขนลุกได้ ยิ่งนึกภาพตามแล้วลักษณะเป็นตัวนิ่มๆ ยาวๆ ชอนไชอยู่ในดิน บางคนเข้าขั้นกลัวเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้อย่างมาก แต่หารู้ไม่….? เจ้า ‘ไส้เดือน‘ ที่ว่ามานี้ มันส่งผลดีต้องระบบนิเวศน์อย่างมาก ในการทำหน้าที่ชอนไชภายในดินช่วยให้ดินร่วนซุยมากขึ้น ช่วยกำจัดซากพืช ซากสัตว์ มูลของมันยังสามารถทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ได้ดีอีกด้วย และที่สำคัญ!! การเลี้ยงเจ้าไส้เดือนยังสามารถสร้างรายได้ ที่ไม่ต้องลงทุนสูงมากนัก….?

วันนี้ MThai News ในช่วง ‘เกษตรสร้างรายได้’ ขอพาทุกท่านไปพบกับอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กับครูเมืองนนท์ จากการเลี้ยง ‘ไส้เดือน’ นั้นคือ อ.สิทธิศักดิ์ ใจชื่นบาน หรือ อ.อู๊ด ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เจ้าของ ‘ฟาร์มไส้เดือน อ.อู๊ด จ.นนทบุรี’ โดยที่ฟาร์มตั้งอยู่ภายใน หมู่บ้านสิวารัตน์ 9 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี วันนี้เราจะไปเจาะลึกถึงเทคนิควิธีการเลี้ยง และช่องทางการตลาด ที่หลายๆ คน อาจยังสงสัยว่าเจ้า ‘ไส้เดือน’ มันสามารถสร้างรายได้ ได้อย่างไร ?

โดย อ.อู๊ด เปิดเผยว่าจุดเริ่มในการเลี้ยง ‘ไส้เดือน’ เป็นรายได้เสริมนั้น เนื่องจากเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้จึงอยากหาวิธีในการบำรุงต้นไม้ให้ออกดอก ออกผลสวยงาม โดยได้เข้าไปหาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ต จนไปพบกับการเลี้ยงไส้เดือน และเข้าใจถึงประโยชน์ของไส้เดือน จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการอยากลองเลี้ยงไว้เพื่อศึกษา

dscn6889

แรกเริ่มไปซื้อชุดหัดเลี้ยงมาในราคา 500 บาท เป็นการเลี้ยงในภาชนะเป็นกะละมัง โดยจะได้ไส้เดือนน้ำหนักรวมกันประมาณ 2 ขีด พร้อมกับมูลวัว ซึ่งเป็นอาหารของไส้เดือน ช่วงแรกๆที่เลี้ยงเกิดปัญหาคือไส้เดือนตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากยังไม่มีความรู้ในการควบคุมความชื้น ซึ่งไส้เดือนจะเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่ในที่มืด หรือไม่สว่างมากนัก และต้องหมั่นตรวจเช็กความชื้นของมูลวัวที่ใส่ลงไป

จึงตัดสินใจไปเข้าร่วมอบรมจากกลุ่มเกษตรกรต่างๆ ที่เพาะเลี้ยงไส้เดือนจนนำความรู้ที่ได้มาตกผลึก และมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่เลี้ยงของตนเอง โดยได้ลงทุนซื้อชุดเลี้ยงไส้เดือนเป็นครั้งที่ 2 ผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จในการเลี้ยง ไส้เดือนสามารถขยายพันธุ์ได้ดี จนตัดสินใจขยายพื้นที่ในการเลี้ยง โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 ปี จนทำเป็นฟาร์มขนาดย่อมๆ

สำหรับ ‘ไส้เดือน’ นั้นมีมากกว่า 4,000 ชนิดจากทั่วโลก แต่สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง และนำประโยชน์ของมันมาใช้ได้สูงสุดมี 2 ชนิดคือสายพันธุ์ ‘แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์’ African Night Crawler (AF) และสายพันธุ์ไทเกอร์ โดยที่ฟาร์มของ อ.อู๊ด จะเลี้ยงเป็นสายพันธุ์ แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์ เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่า สายพันธุ์ไทเกอร์

ส่วนการเตรียมตัวในการเลี้ยงเจ้าไส้เดือนนั้น ขั้นตอนแรกให้นำมูลวัวนมไปแช่น้ำ หลายๆ คน อาจสงสัยว่าทำไม ถึงต้องเป็นมูลวัวนม ..? เนื่องจากวัวนมจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี จึงส่งผลต้องมูลที่มีจุลินทรีย์ และสารอาหารที่ดีต่อไส้เดือน ในราคาเพียงถุงละ 40 บาทเท่านั้น โดยให้นำมูลวัวนมไปแช่น้ำอย่างน้อย หรือไม่ต่ำกว่า 5 วัน

dscn6878
มูลวัวนมที่นำไปแช่น้ำ

เมื่อครบกำหนดก็นำมูลวัวมาใส่ในภาชนะเลี้ยง อาทิบ่อรองปูน กะละมัง แต่ที่ฟาร์มจะใช้เป็นกะละมัง เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด โดยใส่มูลวัวไปประมาณ 60 % ของภาชนะที่ไว้เลี้ยงไส้เดือน ใน 1 กะละมัง จะใส่ไส้เดือนประมาณ 2 ขีด โดยวิธีการใส่ให้ขุดหลุมตรงกลาง หลังจากนั้นประมาณ 10-15 นาทีให้สังเกตว่าไส้เดือนมีการชอนไชไปทั่วมูลวัว หรือที่เรียกกันว่า ‘เบดดิ้ง’ แสดงว่าเบดดิ้งที่เราเตรียมไว้มีความสมบูรณ์

หลังจากนั้นให้หมั่นตรวจดูความชื้นของเบดดิ้งไม่ควรให้แห้งจนเกินไป หรือประมาณ 2-3 วัน ก็ควรที่จะรดน้ำให้เบดดิ้งชุ่มชื้นพอสมควร จะทำแบบนี้ไปจนถึงวันที่ 20 นับจากการใส่ไส้เดือนครั้งแรก หลังจากนั้นวันที่ 21-30 ไม่ต้องรดน้ำแล้ว เนื่องจากจะต้องเก็บผลผลิต ทั้งนี้ไส้เดือนมีอายุได้ประมาณ 4 ปี และช่วงอายุที่สามารถขยายพันธุ์ได้เริ่มตั้งแต่ 3 เดือนเป็นต้นไป

dscn6887
ไข่ของ ‘ไส้เดือน’

โดยส่วนที่นำมาจำหน่ายได้คือ ตัวไส้เดือน มูล และน้ำหมัก ส่วนราคาจำหน่ายนั้น ไส้เดือนจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท มูลขายเป็นกระสอบ กระสอบละ 20 กิโลกรัม 300 บาท หรือตันละ 8,000 บาท ในกรณีที่มีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และขายยกชุดกะละมังเลี้ยงในราคา 500 บาท

ส่วนช่องทางการตลาดเน้นไปที่กลุ่มลูกค้า ที่เป็นตลาดเกี่ยวการเกษตรโดยตรง เจาะไปตามร้านต่างๆ ซึ่งปัจจุบันที่ฟาร์มมีฐานลูกค้าประจำอยู่แล้ว ส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท ย้ำนะครับว่านี่เป็นเพียงการสร้างรายได้เสริมเพียงเท่านั้น หากท่านใดที่สนใจอาจต้องขยายการผลิตมากกว่านี้ รวมถึงการต่อยอด ซึ่ง อ.อู๊ด แนะนำว่าให้หาตลาดเพื่อกระจายผลผลิตให้ได้เสียก่อน

โดย อ.อู๊ด ยังเปิดเผยอีกว่าหากใครที่มีงานประจำอยู่แล้ว และสนใจอยากหารายได้เสริม การเลี้ยง ‘ไส้เดือน’ ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากไม่ต้องดูแลมากเท่าไรนัก ซึ่งที่ผ่านมายังได้น้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช’ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในการทำอาชีพเสริมนี้ด้วย ซึ่งกล้าพูดได้เต็มปากว่า ‘ไส้เดือนสามารถเลี้ยงคนได้’ หากเรารู้จักอยู่อย่างพอเพียง

ทั้งนี้หากท่านใดสนใจอยากศึกษาวิธีการเลี้ยงไส้เดือน และสนใจอยากซื้อชุดเลี้ยง สามารถไปได้ที่ ‘ฟาร์มไส้เดือน อ.อู๊ด จ.นนทบุรี’ ตั้งอยู่ภายใน หมู่บ้านสิวารัตน์ 9 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 084-419-8000 (อ.อู๊ด)

dscn6855

dscn6861

dscn6862

dscn6874

dscn6876  dscn6885

เรื่อง/ภาพ ธเนตร พุทธิตระกูล

ติดตามสกู๊ปข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com

MThai News