ประเด็นน่าสนใจ
- รับเคยติดต่อเพจเพื่อหาคนอุปการะเด็กจริง
- ครอบครัวเลี้ยงไม่ไหว และอยากให้เด็กเจอสภาพแวดล้อมดีๆ
- เล็งเอาผิดคนปล่อยข่าวจนสร้างความเสื่อมเสีย
จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ ได้แชร์ภาพเพจเฟซบุ๊ก ประกาศขออุปการะเด็กทารก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ว่าการกระทำดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.เด็ก และ อาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลพร้อมรูปภาพของเด็กทารกคนหนึ่ง ระบุพิกัดเด็กอยู่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้น
ผู้สื่อข่าว MThai ได้เดินทางไปพบครอบครัวของเด็กทารกที่ปรากฏภาพ ซึ่งได้เดินทางมาพบกับ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,พ.ต.อ. ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน,พ.ต.ท. เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.สภ.หัวหิน,พ.ต.ท. ไชยวิวัฒน์ จันทร รอง ผกก. สอบสวน สภ.หัวหิน หลังจากเรื่องดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
โดยครอบครัวของเด็กทารกรายนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มีคนโทรศัพท์มาด่าทอ และมีชาวเน็ตคอมเม้นท์ด่าสาดเสียเทเสีย อย่างไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความเป็นธรรมจากสังคม เนื่องจากข้อมูลที่เผลแพร่ออกไปไม่เป็นความจริง มีการบิดเบือนข้อมูล
ชี้ถูกบิดเบือนข้อมูล จนเกิดความเข้าใจผิด
โดยอาของเด็กทารกวัย 5 เดือน เผยว่า ครอบครัวไม่ได้ประกาศขายเหลนชาย วัย 5 เดือนอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าได้ติดต่อกับเพจเพื่อหาคนอุปการะเหลนชายจริง เนื่องจากผู้ปกครองของเด็กไม่สามารถเลี้ยงดูไหว และอยากให้เด็กมีอนาคตที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี จึงได้ติดต่อเพจเพื่อหาคนอุปการะดังกล่าว
โดยทางเพจแจ้งว่าขอเบอร์โทรศัพท์ และรูปถ่ายของเด็กทารกไว้ เพื่อจะประกาศหาคนที่มีความพร้อมที่ต้องการรับเด็กไปอุปการะ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีการซื้อขายเด็กทารกอย่างแน่นอน
สำหรับสาเหตุที่เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาครั้งนี้ สันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากที่ตนไปมีปากเสียงคนที่ต้องการเด็กรายหนึ่งเข้า หลังจากที่เขาทราบว่า ตนตัดสินใจจะยกเด็กให้กับดาบตำรวจ ทำให้เขาเกิดความไม่พอใจ คิดว่าดาบตำรวจรายนี้เจรจาให้เงินมากกว่า อาจจะนำเรื่องไปบิดเบือนข้อมูล
เล็งเอาผิดคนปล่อยข่าว จนทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้ให้ พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงเชื่อได้ว่า กรณีนี้เป็นความเข้าใจผิด ไม่มีการซื้อขายเด็กทารก
อย่างที่ปรากฏข้อมูลในสื่อออนไลน์ แต่เป็นความยินยอมของครอบครัวที่ต้องการจะให้เด็กได้อยู่กับครอบครัวใหม่ที่มีความพร้อมทุกด้าน และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมขออนุญาตรับรองบุตรบุญธรรม
ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลขึ้นสื่อโซเซียล จนก่อให้เกิดการตื่นตระหนกและวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างในครั้งนี้ เบื้องต้นผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถือว่าเป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จขึ้นสื่อออนไลน์ จนก่อให้เกิดการเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง หากทางครอบครัวผู้เสียหาย จะแจ้งความดำเนินคดี กับผู้โพสต์ฯหรือผู้แชร์เรื่องดังกล่าว ก็สามารถทำได้ เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย