ประเด็นน่าสนใจ
- ล่าสุด บก.ปคบ. แถลงการจับกุมนายโจม พารณจุลกะ เจ้าของบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด
- ตำรวจกองปราบ บุกจับกุม เจ้าของบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด เจ้าของร้านบุฟเฟ่ดัง
- ก่อนหน้านี้มีการยกเลิกโปรโมชั่นสินค้า ส่งผลให้ลูกค้าที่ซื้อโปรโมชั่นได้รับความเสียหายจำนวนมาก
- มูลค่าความเสียหายหลักล้านบาท
วันนี้ (11 ก.ย.) เวลา 13.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.ต.ต.ศิรัชเขตร์ ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.กก.1 บก.ปคบ. ร่วมแถลงผลการจับกุม นายอพิชาต บวรบัญชารักข์ หรือ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด และ เจ้าของร้านอาหาร “แหลมเกต” หลังไม่สามารถให้บริการอาหารได้ตามโฆษณา มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท
พล.ต.ต.ศิรัชเขตร์ กล่าวว่า สืบเนื่องมีผู้เสียหายรวมตัวกัน 626 ราย เข้าร้องทุกข์ บก.ปคบ. ว่าร้านอาหาร “แหลมเกต” ที่ประกอบกิจการขายอาหารทะเลบุฟเฟต์ คิดค่าอาหารเป็นรายหัวคนละ 888 บาท มีการจำหน่ายบัตรตามแต่ละโปรโมชั่นและมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง ลูกค้าต้องจองคิวผ่านทางระบบออนไลน์ โดยช่วงแรกลูกค้าเข้าไปรับประทานอาหารแล้วใช้บริการได้จริง จึงมีคนสนใจหลงเชื่อโอนเงินสั่งจองจำนวนมาก แต่เมื่อเข้าไปรับประทานอาหารปรากฏว่ารายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณาและให้ชำระเงินค่าอาหารเพิ่ม บางรายนัดหมายกับร้านไว้แล้วแต่ไม่อาจเข้าไปรับประทานอาหารได้โดยได้อ้างเหตุผลต่างๆ และรับว่าจะคืนเงินให้กับผู้เสียหายแต่ได้บ่ายเบี่ยง สุดท้ายปิดร้านหลบหนีไป ก่อนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ศิรัชเขตร์ กล่าวว่า ต่อมา วันที่ 6 ก.ย.62 บก.ปคบ. ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่คอนโดฯ ย่านพหลโยธิน ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ รวมทั้ง เตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 1 ราย นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบว่าขณะนี้เหลือยอดเงินในบัญชีเพียง 90 บาท เตรียมขยายผลว่ามีการยักย้าย ถ่ายเทไปยังผู้ใดเพื่อติดตามยึดทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายต่อไป
“จากข้อมูลพบว่าร้านอาหารดังกล่าวได้จ้างบริษัทคอลเซ็นเตอร์ มาช่วยจำหน่ายบัตรกิ๊ฟวอยเชอร์ (gift voucher) ตั้งแต่ปี 61-62 จำนวน 57 โปรโมชั่น ผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 22,067 ราย จำนวนคูปอง 371,844 ที่นั่ง เงินเข้าบัญชี 30 ล้านบาท อีกทั้ง ยังมีกลุ่มผู้เสียหายเป็นเจ้าของอาหารสดหรือนำส่งวัตถุดิบมายังร้าน อีกกลุ่มที่ถูกจ่ายเป็นเช็คเด้ง ซึ่งจะแยกออกเป็นอีกคดี อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อสินค้าและบริการต่างๆ อย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือสมเหตุสมผล เนื่องจากอาจถูกหลอกและไม่สามารถใช้บริการได้จริง หากมีข้อสงสัยพบเห็นการกระทำความผิด แจ้งแบะเเสได้ที่สายด่วน บก.ปคบ.1135”
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลัแถลงเสร็จผู้เสียหายจากการซื้อว้อยเช่อร์ ร้านแหลมเกต จำนวนนับร้อย จาก 6 ร้อยกว่าราย มูลค่าความเสียหายรวม 50 ล้านบาท
เดินทางมาให้กำลังใจมอบกระเช้าแก่ พล.ต.ต.ศิรัชเขตร์ ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ.และพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ที่สอบสวนจนออกหมายจับ และจับนายอพิชาต กรรมการบริษัทแหลมเกต อินฟินิท จำกัด ประกอบกิจการร้านอาหารซีฟู๊ดแหลมเกตได้
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายจากการส่งของวัตถุดิบ กรรเชียงปู กุ้ง ปลาหมึก ปลากระพง ที่ทีมงานทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พามาพบ ผบก.ปคบ.อีก 4ราย กล่าวว่าส่งของมาแล้ว 3-4 ปี ไม่เคยมีปัญหา แต่พอร้านไปขายว้อยเช่อร์แล้วคนมากินมากๆ ทำให้หมุนเงินจ่ายวัตถุดิบที่มาส่งไม่ทัน ล่าสุดตีเช็คเด้ง ให้พวกตนอีกรายขายจานชามชานอ้อย ความเสียหายรวม 3 ล้านกว่าอีกรายเช่ารถรับส่ง 6 เดือน โดนเบี้ยวค่าเช่ารวม 2 แสน
ร.ต.อ.วีระพล อุปชิต รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.บอกพนักงานสอบสวนผู้เสียหายหลอกขายว้อยเช่อร์แล้ว 350 ปาก ยังไม่สิบอีก 200 รายและมีผู้เสียหายรายอื่นที่ทราบข่าวจะมาแจ้งเพิ่มอีก
ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังจับกุม นายอพิชาต บวรบัญชารักข์ หรือนายโจม พารณจุลกะ เจ้าของบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฐานความผิด “ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณใน สินค้าด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ภายในซ.พหลโยธิน 11
สืบเนื่องจากบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด ซึ่งได้ประกอบกิจการร้านอาหารทะเลบุฟเฟ่ต์มีอาหารหลายชนิด ได้ออกโปรโมชั่นคิดค่าอาหาร โดยจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารทะเล อาทิโปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุดๆละ 880 บาท ตกใบหรือที่นั่งๆ ละ 88 บาท, แต่ละโปรโมชั่นและมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง
ทำให้มีผู้สนใจสั่งซื้อจำนวนมากแต่เมื่อไปรับประทานอาหารปรากฏว่ารายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณา และบังคับให้จ่ายเพิ่ม ก่อนจะยกเลิกโปรโมชั่นดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นผู้ต้องหา ขอให้การในชั้นศาล ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการคัดค้านการประกันตัว
