ประเด็นน่าสนใจ
- จับสารวัตร รับจ้างขนยาบ้าจำนวนเกือบ 200,000 เม็ด คาด่านที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
- เจ้าตัวยอมรับผิดเพราะจำนนด้วยหลักฐาน
- สตช. ยันเอาผิดถึงที่สุด ทั้งทางอาญาและวินัย เหตุทำเสียชื่อเสียงองค์กร และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแม่สาย จ.เชียงราย ได้ทำการตรวจค้นรถโดยสารปรับอากาศ ก่อนจะพบว่ามีกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งบรรจุยาบ้าจำนวนเกือบ 2 แสนเม็ดถูกวางรวมอยู่ในชั้นสัมภาระ
ก่อนจะทราบต่อมาว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.สุรจิต ทาวุธ อายุ 35 ปี สว.กก.สส.ภ.จว.อุทัยธานี ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวไว้ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฏหมายนั้น
ผบ.ตร. สั่งเอาผิดถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เป็นเจ้าหน้าที่แต่ทำผิดเสียเอง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้เปิดเผยถึงที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับจ้างจากชายรายหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ให้มาทำการขนยาเสพติด โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินประมาณ 100,000 บาท
โดย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค6 จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบกับ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ว่ามีส่วนปล่อยปะละเลย ไม่กำกับดูแลให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิดหรือไม่อย่างไร
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดนั้น พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ผู้ว่าจ้าง นายทุนที่อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล จับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้รักษากฎหมาย แต่กระทำความผิดกฎหมายเสียเอง
เรื่องอย่างนี้ต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสีย ชื่อเสียงขององค์กรและขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจ ที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา