ประเด็นน่าสนใจ
- ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ
- จากสถานการณ์น้ำท่วมประชาชนได้รับผลกระทบ 378,409 ครัวเรือน
- ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
อุบลราชธานียังท่วม 8 เส้นทาง
กรมทางหลวง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ แจ้งว่า กรมทางหลวงได้ทำการสรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลและคาจิกิ สถานการณ์น้ำปัจจุบันวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลา 12.00 น.
พบทางหลวงถูกน้ำท่วม 4 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ทางหลวงที่การจราจรผ่านไม่ได้ 11 แห่ง
เช็คเส้นทาง พบน้ำท่วม 4 จังหวัด จำนวน 14 สายทาง ผ่านไม่ได้ 11 แห่ง
*โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ให้บริการได้ตามปกติ
กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ให้บริการได้ตามปกติ มีแผนให้บริการนอกโรงพยาบาล รับผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มานอนที่โรงพยาบาล และเตรียมเส้นทางรับผู้ป่วยส่งต่อจากโรงพยาบาลอำนาจเจริญและยโสธรกรณีน้ำท่วม
*นายกฯ สั่งการทุกเหล่าทัพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการทุกเหล่าทัพให้กระจายกำลังและเครื่องมือช่าง สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือและภาคอีสานอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
โดยเฉพาะ 8 จังหวัดภาคอีสานที่ยังคงมีน้ำท่วมสูง พร้อมทั้งให้ประสานกับส่วนราชการในพื้นที่ ติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำมูลและพื้นที่ที่ยังคงมีฝนตกชุก เช่น ที่ จ.อุบลราชธานี โดยให้เสริมกำลังเตรียมเข้าช่วยเหลือประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ขณะนี้ กำลังพลทั้งทหารบก เรือ อากาศ ที่มีหน่วยงานในพื้นที่ ได้จัดกำลังพลหมุนเวียนวันละกว่า 4,000 นาย พร้อมกับเครื่องมือช่าง เครื่องสูบน้ำ เรือชนิดต่าง ๆ ยานยนต์ล้อสูง รถครัวสนาม รถประปาสนาม และชุดแพทย์เคลื่อนที่ ทำงานร่วมกับจิตอาสา ระดมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกผู้ประสบภัยโดยตลอด นอกจากนี้ได้จัดอากาศยานพร้อมชุดค้นหาและกู้ภัย ติดตามผู้สูญหาย และใช้เรือผลักดันน้ำ 25 ลำ เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
*จังหวัดอุบลราชธานี เปิดศูนย์รับบริจาค
จังหวัดอุบลราชธานี เปิดศูนย์รับบริจาคให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปี 2562 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
หรือบริจาคเป็นเงินได้สำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หรือที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเลขที่บัญชี 985–5–03191–1
(ข้อมูล ณ วันที่ 11 กันยายน 2562 มียอดเงินบริจาคแล้ว จำนวน 354,198.- บาท)โดยติดต่อขอรับใบเสร็จรับเงินได้ที่ สำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี โทร. 0 4534 4605
ขอเชิญร่วมบริจาค กับทางfoodtech ม.มหาสารคาม
ทางภาควิชาเทคโนโลยีการอาหารและโภชนศาสตร์ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เชิญร่วมบริจาคช่วยน้ำท่วม โดยทางผู้จัดรับบริจาคเปิดเผยว่า
อาจารย์อัศวิน อมรสิน อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระบุว่า จะทำอาหารสำเร็จรูปชนิดไม่เน่าเสียเก็บนอกตู้เย็นได้ 2 ปี (ข้าวเหนียวหมูทอด/ขนมจีนน้ำยา) บรรจุเพ้าซ์เพื่อช่วยบรรเทาผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ห่างไกล จ.อุบลราชธานี
ท่านใดประสงค์ร่วมบุญบริจาค ได้ที่บัญชี (บัญชีธุรกรรม)
อัศวิน อมรสิน กสิกรไทย 011-340-841-3 ()
(แจ้งด้วย/เริ่มผลิต LOT1 วันที่ 13-14 กย.62)
*เปิดจุดรับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโพดุล
ประชาชนไทยสามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่เคาน์เตอร์ให้บริการ หรือกล่องรับบริจาค ณ ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2562
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ได้นำเครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมกว่า 1,300 แห่งมาใช้เป็นจุดเชื่อมธารน้ำใจจากชาวไทยทั่วประเทศ
โดยให้ไปรษณีย์ทุกแห่งเป็นจุดรับบริจาคเงินและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ได้แก่ เครื่องอุปโภค/บริโภค จากผู้ประสงค์ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโพดุล โดยสามารถบริจาคได้ ณ ไปรษณีย์ใกล้บ้านทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะส่งต่อผู้ประสบภัยต่อไป
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมอาสาจัดเจ้าหน้าที่และรถขนส่งไปรษณีย์ขนาดใหญ่ช่วยลำเลียงสิ่งของรับบริจาค ส่งมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนด้วย โดยสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 0-2831-3508 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือ www.thailandpost.co.th
*นายกรัฐมนตรี เตือนชาวอุบลฯ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเตือนชาวอุบลฯรับมือมวลน้ำที่จะไหลผ่านในวันพรุ่งนี้
ข้อความระบุว่า : ผมขอให้พี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำจำนวนมากที่จะไหลผ่าน อ.เมืองอุบลฯ ในวันพรุ่งนี้ครับ
โดยระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ขอให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง และหากต้องการความช่วยเหลือ ให้ติดต่อสายด่วน 1784 ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ
*พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในช่วง 3-7 วันนี้
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในช่วง 3-7 วันนี้
- ภาคเหนือที่พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก ภาคตะวันออกต้องเตรียมพร้อมสำหรับตราดและนครนายก
- ภาคตะวันตกที่เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกันนี้ต้องเฝ้าระวัง 7 แหล่งน้ำขนาดใหญ่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนปราณบุรีที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก
โดยช่วงเช้าของวันนี้ คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มีการประชุมเพื่อติดตามการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี พิจารณาเกณฑ์การบริหารจัดการเขื่อนเก็บกักน้ำและเขื่อนระบายน้ำ และมาตรการเก็บน้ำในฤดูฝนเพื่อรับมือภาวะภัยแล้งปี 62/63 พร้อมเสนอกรอบโครงสร้างการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและกองอำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ
*เตือนชาวอุบลราชธานี เตรียมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนชาวอุบลราชธานีเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำจำนวนมากที่จะเดินทางถึงในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าจะมีมวลน้ำสูงสุด 4,500-4,800 ล้าน ลบ.ม.เดินทางถึง อ.เมืองอุบลฯ วัดปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.วารินชำราบ คาดว่าในวันที่ 13 ก.ย.สูงสุดอยู่ที่ 5,300-5,500 ลบ.ม./วินาที
โดยน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในหลายพื้นที่ หากต้องการความช่วยเหลือ ให้แจ้งมาที่สายด่วน 1784 เพราะมีพื้นที่ประสบภัยเป็นวงกว้างเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง
*พายุอีกลูกหนึ่งเตรียมจ่อเข้าไทย ข่าวปลอม!
ตอนนี้มีข้อมูลเท็จถูกแชร์ต่อ ว่าจะมีพายุอีกลูกหนึ่งเตรียมจ่อเข้าไทย ทางจังหวัดอุบลราชธานี ให้เตรียมอพยพเกี่ยวพายุลูกใหม่ สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ประสบภัย
ซึ่งทาง กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ออกมาชี้แจงข่าวแล้วว่า ตามที่มีการส่งข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ในวันที่ 9 กันยายน 2562 ได้มีการแจ้งเตือนว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ แล้วจะเคลื่อนตัวมาทางจังหวัดอุบลราชธานี นั้น
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ขอเรียนว่าในขณะนี้ยังไม่มีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้น และในระยะสัปดาห์นี้ ยังไม่มีพายุฯใดๆ ที่จะเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาได้ติดตามสภาพอากาศในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้
อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ถ้ามีสภาพอากาศที่ไม่ดีแล้วมีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันที และขอแนะนำให้ประชาชน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น
เพื่อมิให้เกิดความสับสน ในการประกาศแจ้งเตือนจะมีรายละเอียด วันและเวลาที่แน่นอน และขอให้อย่าได้ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้มาจากผู้ทำงานรับผิดชอบโดยตรง หรือการส่งต่อกันตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ และสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4012-3 ได้ตลอด24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
……………………………….
ปภ.รายงาน ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 5 จังหวัด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อน “โพดุล” และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด ได้แก่
อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และสกลนคร รวม 176 อำเภอ 909 ตำบล 6,568 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน
ประชาชนได้รับผลกระทบ 378,409 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 29 ราย (ยโสธร 8 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อำนาจเจริญ 4 ราย ขอนแก่น 3 ราย พิจิตร 2 ราย อุบลราชธานี 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ)
ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 28,665 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 81 จุด (อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด)
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่พร้อมระดมวัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัย
โดยแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยและเรือท้องแบนให้บริการขนย้ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
เตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด รวมถึงระมัดระวังภัยที่มักเกิดในช่วงน้ำท่วม อาทิ อุบัติภัยจากไฟฟ้า อุบัติภัยทางน้ำ สัตว์มีพิษ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป