ประเด็นน่าสนใจ
- องค์การอนามัยโลก รับรองวัคซีน Sinovac ในการใช้งานแบบฉุกเฉินแล้ว
- โดยรายงานประสิทธิภาพของวัคซีนว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ 51% และป้องกันอาการรุนแรงได้ 100%
- นับเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวที่ 2 จากจีนที่ได้รับการรับรอง
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้รับรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ Sinovac ให้สามารถใช้งานได้แบบฉุกเฉินแล้ว โดยระบุว่า วัคซีน CoronaVac ของ Sinovac นั้นมีประสิทธิภาพและการผลิตเป็นไปตามมาตรฐาน และความปลอดภัยในการใช้งาน
ซึ่งในการอนุมัติฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการจัดหาวัคซีนเข้าสู่โครงการ COVAX Facility และการจัดซื้อจัดหาวัคซีนระหว่างประเทศ โดยวัคซีนของ Sinovac นั้นเป็นวัคซีนที่สามารถจัดเก็บได้ง่าย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 51% และป้องกันอาการรุนแรงได้ 100%
สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยการฉีดจำนวน 2 เข็มห่างกัน 2-4 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สำหรับวัคซีนของ Sinovac นี้ ยังมีผลการศึกษาในกลุ่มของผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่มากนัก จึงไม่แนะนำให้มีการใช้วัคซีนกับกลุ่มผู้ที่มีอายุสูงเกินกว่า 60 ปี จนกว่าจะมีผลการศึกษาเพิ่มเติมถึงผลข้างเคียงและประสิทธิภาพในกลุ่มนี้
รายงานประสิทธิภาพในการทดลองทางคลินิกระยะ 3
- ในบราซิล มีประสิทธิภาพการป้องกันโรคได้ มีประสิทธิภาพ 51% ป้องกันอาการรุนแรงได้ 100% และไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน
- การทดลองระยะที่ 3 ในอินโดนีเซีย พบว่ามีประสิทธิภาพ 65.3% ในการป้องกันโรค
- ตุรกี พบว่ามีประสิทธิภาพ 83.5%
- ชิลี รายงานประสิทธิภาพอยู่ที่ 67% ในการป้องกัน , ป้องกันอาการรุนแรงได้ 85% และป้องกันการเสียชีวิตได้ 80%
ส่วนการทดลองทางคลินิกในบราซิล ในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของเชื้อสายพันธุ์ Gamma ( P.1 หรือชื่อเดิม – สายพันธุ์บราซิล) โดยพบว่า ผลการทดลองในเมือง Manaus ประสิทธิภาพ 49.6% ในขณะที่ในเมือง Sao Paulo อยู่ที่ 50.7%
วัคซีน
สำหรับวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกได้รับการรับรองให้มีการใช้งานแบบฉุกเฉินได้แล้ว ประกอบไปด้วย
- Pfizer/BioNTech
- Astrazeneca (จากของทั้ง AstraZeneca-SKBio, Serum Institute of India, Astra Zeneca EU)
- Janssen ของ Johnson & Jonhson
- Moderna
- Sinopharm
- Sinovac
ที่มา องค์การอนามัยโลก