ประเด็นน่าสนใจ
- พรรคภูมิใจไทย จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
- อธิการบดี ม.รามคำแหง หนุนผลักดันกฎหมายแก้หนี้ กยศ. เสนอเพิ่มให้นักศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 2 แปลงหนี้เป็นทุนการศึกษาด้วย
- อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เป็นห่วงว่าอาจเพิ่มความเหลื่อมล้ำในการศึกษา
กรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) (ฉบับที่…) พ.ศ. … เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรโดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ ดังนี้ มาตรา 5 กำหนดให้ผู้กู้ยืมเงินภายหลังที่สำเร็จการศึกษา อาจเลือกทำงานให้รัฐแทนการชำระกู้ยืมเงิน และให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ และมาตรา 6 กำหนดให้กรณีผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และได้รับผลการศึกษาในระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สามารถแปลงหนี้เงินกู้เป็นทุนการศึกษา โดยไม่ต้องชำระเงินได้นั้น
ล่าสุด นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) เปิดเผยว่า การให้นักศึกษาที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแปลงหนี้เป็นทุน และไม่ต้องชำระเงินกู้นั้น ถือเป็นนโยบายที่ดี เพราะเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาพยายามพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ แต่ขณะเดียวกันต้องหาวิธีการดำเนินงาน ไม่ให้เป็นการกดดันนักศึกษามากนัก
อย่างไรก็ตาม ส่วนมากกลุ่มนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุน กยศ.จะทำงานประจำ หรือทำงานพาร์ทไทม์ ถือว่ามีภาระอยู่พอสมควร อยากเสนอให้นักศึกษาเหล่านี้ที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง และได้ผลการเรียนเฉลี่ยเกิน 3.50 ขึ้นไป ที่จะได้รับการแปลงหนี้เงินกู้เป็นทุนการศึกษาโดยที่ไม่ต้องชำระเงิน
ส่วนการกำหนดให้ผู้กู้ยืมหลังจากสำเร็จการศึกษา อาจเลือกทำงานให้รัฐแทนการชำระเงินกู้ได้นั้น ถือเป็นการดี เพราะปัจจุบันอัตราข้าราชการมีน้อยมาก แต่ในขณะเดียวกัน หากจะให้เฉพาะผู้ที่กู้ยืม กยศ.เข้ารับราชการ หรือทำงานให้รัฐ ต้องคิดถึงกลุ่มที่ไม่ได้กู้ยืมเงิน เพื่อความเสมอภาพกันด้วย
อธิการบดี มทร. เป็นห่วงว่าอาจเพิ่มความเหลื่อมล้ำในการศึกษา
ด้านนายวิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) กล่าวว่า การให้นักศึกษาที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งไม่ต้องชำระเงินกู้นั้น มองว่ามาตรการนี้อาจทำให้เกิดความเลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะหลายคนอาจมองว่าเป็นการสร้างไม่เท่าเทียมกันในสังคม ก่อให้เกิดความแบ่งแยกชนชั้นระหว่างกัน
และปัจจุบันสถานประกอบการส่วนใหญ่ไม่ต้องการคนเก่งอย่างเดียว แต่ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบ และปรับตัวเข้ากับสังคมได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษาเหล่านี้ไม่ใช่คนที่เรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง