ประเด็นน่าสนใจ
- ความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่านจากกรณีการโจมตีโรงงานกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย
- ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งสูง
- ซาอุฯ แสดงหลักฐานเป็นขีปนาวุธนำวิถี และโดรน ที่ใช้โจมตี
พันเอก ตุรกี อัล-มาลิกี โฆษกกองทัพซาอุดีอาระเบีย ได้แถลงความคืบหน้า พร้อมแสดงซากโดรนและขีปนาวุธที่พบในจุดเกิดเหตุที่โรงกลั่นน้ำมันถูกถล่ม เป็นการตอกย้ำว่า การโจมตีโรงน้ำมันครั้งนี้มีอิหร่านสนับสนุน
โดยพันเอกอัล มาลิกี กล่าวว่า การโจมตีนี้มีโดรนทั้งหมด 18 ลำ ขีปนาวุธร่อน 7 อัน เป็นชนิดพิสัยทำการไกล 700 กิโลเมตร ดังนั้นเชื่อได้ว่า ไม่ได้ยิงมาจากประเทศเยเมน ตามที่กลุ่มกบฏฮูตี กล่าวอ้างอย่างแน่นอน โดยจะนำหลักฐาน เข้าสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการลงโทษอิหร่าน
ส่วน รัฐบาลอิหร่านส่งหนังสือทางการทูตถึงรัฐบาลสหรัฐอย่างเป็นทางการ ผ่านสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์
ประธานาธิบดีฮัสซัน เราฮานี ของอิหร่าน ยังให้ความเห็นว่า กลุ่มฮูตีโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและทุ่งขุดเจาะบ่อน้ำมันของซาอุฯ คู่สงครามในสมรภูมิเยเมน เพื่อจะส่งสารถึงซาอุฯ ว่า ฮูตีไม่ได้ทำลายโรงเรียน โรงพยาบาล ไม่ได้ถล่มพระราชวัง แต่โจมตีอุตสาหกรรมของซาอุฯ เพื่อตักเตือนเท่านั้น