ข่าวสดวันนี้ โรแมนซ์สแกม

สาวใหญ่ถูกฝรั่งหลอกโรแมนซ์สแกมยืมเงินญาติโอนเงินรวม 1.2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 19 ก.ย. น.ส.แพตตี้ ( นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ที่อยู่ย่านบางขุนเทียน กทม.อดีตพนักงานขายบริษัทเอกชน เดินทางเข้าพบ…

Home / NEWS / สาวใหญ่ถูกฝรั่งหลอกโรแมนซ์สแกมยืมเงินญาติโอนเงินรวม 1.2 ล้านบาท

ประเด็นน่าสนใจ

  • สาวใหญ่โดนฝรั่งหลอกโรแมนซ์สแกมหลงเชื่อหยิบยืมเงินญาติพี่น้องโอนไปช่วย 8 ครั้งรวม 1.2 ล้านบาท
  • ผู้เสียหายโร่ร้อง ปอท.ช่วยสืบสวนติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี
  • เจ้าตัวฝากเตือนคนอื่นระวังตัว คิดปรึกษาคนอื่นๆ ก่อนโอนเงินจะไม่พลาดแบบตน

เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 19 ก.ย. น.ส.แพตตี้ ( นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ที่อยู่ย่านบางขุนเทียน กทม.อดีตพนักงานขายบริษัทเอกชน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สาโรจน์ สุทธินนท์ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท.แจ้งความว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาได้ใช้โปรแกรม WhatsApp พูดคุยกับคนร้าย อ้างว่าชื่อ Mr.Christian Mark จนเกิดความไว้วางใจและให้โอนเงินเพิ่อชำระเป็นค่าภาษีให้กับธนาคาร

ซึ่งผู้แจ้งได้โอนเงินไปให้คนร้ายเป็นจำนวน 8 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,272,000 บาทโอนไปยังบัญชีเลขที่ 0592444XXX ธนาคารทหารไทย ชื่อบัญชี กนกนุช จำนวน 100,000 บาทครั้งที่สอง 250,000 บาท ครั้งที่สาม100,000 บาท ครั้งที่สี่ 36,000 บาท ครั้งที่ห้า 50,000 บาทครั้งที่หกโอนเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 1642750XXX ชื่อ กฤษณา……. จำนวน 112,752 บาท ครั้งที่เจ็ด จำนวน 152,000 บาท ครั้งที่แปดจำนวน 115,000 บาทเข้าบัญชีธนาคาร Lloyd เลขที่ 37754860 ชื่อบัญชี Kelly Smith

หลังจากนั้นคนร้ายติดต่อมาให้โอนเงินอีก จึงเชื่อว่าถูกหลอก และได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

น.ส.แพตตี้ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาแจ้งความ บก.ปอท.เพราะโดนคนที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Mr.Christian Mark หลอกลวง อ้างว่าเขาเป็นคนอเมริกัน หลอกให้เราโอนเงินไปให้กับเขาเป็นจำนวน 8 ครั้งรวมเป็นเงินประมาณ 1.2 ล้านบาท ฝรั่งคนนี้ติดต่อขอแอดเป็นเพื่อนตนมาทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แล้วก็จะเข้ามาพูดคุยกันทาง Messenger ตลอดเรื่อยมา

จากนั้นก็มีการพูดคุยกันผ่านโปรแกม WhatsApp ต่ออีกใช้ระยะเวลาพูดคุยประมาณ 2 เดือนกว่า คุยกับเหมือนๆ เพื่อนคนอื่นๆ ทั่วๆไป ในเฟซบุ๊ก เขาจะชมตนลักษณะคล้ายกับจีบตนว่าเป็นคนดีนะ ทำงานเก่ง เดี๋ยวเขากำลังจะเดินทางมาเอเชียแล้วนะ เขาจะมาทำธุรกิจที่ประเทศมาเลเซีย เดี๋ยวจะติดต่อมาหลังเสร็จธุระที่มาเลเซียแล้วจะแล้วมาหาตนที่เมืองไทย ตนก็ตอบไปว่า ก็มาสิ เสร็จธุระแล้วก็แวะมากินข้าวกัน

เขาคุยว่าไม่อยากจะบอกเลยว่าที่มาทำธุระที่มาเลเซียเป็นเรื่องที่เขาจะมานับมรดกของพ่อเขา ที่เสียชีวิต เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ค.ศ.2015 พ่อเขามีบริษัทที่รับงานสร้างถนนหนทางในประเทศมาเลเซีย ครั้งก่อนเคยเดินทางมารอบหนึ่งแล้ว แต่คราวนั้นแค่มาดิวเรื่องไว้เฉยๆ แต่มาครั้งนี้เพราะบริษัทที่มาเลย์จะให้มารับเช็คของพ่อทำธุรกิจแล้วทิ้งเอาไว้ ซึ่งตัวเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่จะมารับมรดก

ตอนแรกทราบจากที่เขาบอกตนก็ไม่เชื่อ เคยเห็นจากข่าวว่ามีคนถูกหลอกลวงลักษณะนี้มาก่อนแล้ว ตนก็รับฟังเขาเฉยๆ
เวลาต่อมาเขาก็แจ้งมาอีกว่าตนนี้มาถึงมาเลเซียแล้วนะกำลังทำเรื่องประชุมพูดคุยกันอยู่กับรัฐบาลมาเลเซีย จากนั้นเขาก็ออกปากว่ามีเรื่องจำเป็นจะต่องขอรบกวนเราหน่อยจะได้มั้ย ?

เขาบอกว่าเงินที่จะต้องจ่ายภาษีให้กับทางการมาเลเซียไม่พอ จะขอความช่วยเหลือสักครั้งหนึ่งจะได้มั้ย เพราะเดี๋ยวเขาก็จะแวะมาหามาทานข้าวกับตนที่ประเทศไทยแล้วจะเอาไปคืนให้

เขาถามตนมาอยู่หลายวันหลายครั้ง มีการส่งเอกสารต่างๆ ทั้งพลาสปอร์ตหนังสือเดินทาง หน้าที่ผ่าน ตม. มาเลเซีย ก็ตรงกับที่เขาบอก เอกสารทางการ เช็คเงินสดสั่งจากชื่อเขาเป็นเงินจำนวน 21 ล้านลิงกิต

ถามเราว่าอยากจะดูอะไรอีกก็บอกมา จะส่งมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น จนตนคล้อยตามและเชื่อ จึงตัดสินใจโอนให้ไปครั้งแรก 1 แสนบาทก่อนที่เขาอ้างว่าเป็นค่าภาษีออกเช็คของรัฐบาลมาเลเซีย โดยให้โอนไปบัญชีผู้หญิงคนไทยธนาคารทหารไทย บอกว่าที่ให้โอนไปผ่านหญิงคนนี้จะสะดวกเพราะหญิงคนนี้แต่งงานกับชาวมาเลย์ จะสะดวกในการเบิกถอนได้รวดเร็ว เมื่อโอนครั้งแรกไปก็ยืนยันกลับมาว่าได้รับเงินแล้วนะ

จากนั้นก็ขอมาเรื่อยๆ อ้างว่าที่โอนไปยังไม่เพียงพอกับค่าภาษี จึงได้ติดต่อขอมาอีกเรื่อยๆ ไม่งั้นจะเอาเช็คออกมาไม่ได้
ตนเองก็คิดว่าไหนๆ ช่วยแล้วก็จะช่วยให้ได้เช็คเสร็จๆ ซะที แต่เราเองก็ไม่มีเงินสดในบัญชี เลยไปออกปากหยิบยืมจากญาติพี่น้องและเพื่อนๆ มาให้แทน รวมๆ แล้วโอนไป 8 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาท จนรู้สึกตัวว่าน่าจะถูกหลอกมีความเครียดมากเลย
ที่ตนหลงเชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริงเพราะหลักฐานเอกสารต่างๆ ส่งมาดูแล้วน่าเชื่อถือมากจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทำให้เราตกหลุมพราง จึงตัดสินใจช่วยเขาไป

อยากจะฝากเตือนคนอื่นที่เล่นโซเชียล และอาจจะถูกหลอกลวงลักษณะเดียวกับตนว่า ถ้าเจอแบบนี้ขอให้ปรึกษาคนอื่นๆ ดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง อย่ารีบร้อนเชื่ออะไรง่ายๆ แบบตน ห้ามคิดคนเดียว ห้ามทำคนเดียว เราอาจจะไม่ทันระวังตัว แม้จะเคยได้ยินข่าวลักษณะนี้มาก่อนก็ตาม วิธีการของคนร้ายอาจจะปรับเปลี่ยนไปได้ตามสถานะการณ์ต่างๆ เราอาจจะตามไม่ทัน ขอให้ปรึกษาคนอื่นที่ไว้ใจได้เป็นดีที่สุดเคยได้ยินข่าวว่ามีการหลอกลวงให้โอนเงินอยู่แต่ไม่คิดว่าจะโดนกับตัวเอง เขาแสดงหลักฐานต่างๆ เอาสารมากมากมายจนเราหลงเชื่อ พบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.รับแจ้งแล้วจะตรวจสอบและติดตามเรื่องต่อที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกับธนาคารทั้งสองบัญชีในประเทศที่รับโอนเงินว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องอย่างไรกับคนร้ายเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป