กองทัพเรือ อ่าวไทย

ทัพเรือภาคที่ 1 ปฏิบัติการกู้ภัยกลางทะเล ช่วยเหลือลูกเรือประมง 8 ชีวิตรอดตาย

จากเหตุคลื่นลมแรง ทำให้น้ำรั่วเข้าเรือและกำลังจะจม

Home / NEWS / ทัพเรือภาคที่ 1 ปฏิบัติการกู้ภัยกลางทะเล ช่วยเหลือลูกเรือประมง 8 ชีวิตรอดตาย

ประเด็นน่าสนใจ

  • เกิดเหตุเรือลากแผ่นตะเฆ่ ประสบเหตุคลื่นลมแรง ทำให้รั่วเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และกำลังจะจม
  • ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวน ขึ้นค้นหา และส่งเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือลำดังกล่าว จำนวน 8 ราย
  • ลำเลียงลูกเรือทั้งหมด ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำตัวส่ง รพ. เพื่อรับการรักษาตัวต่อไป

วานนี้ ( 23 พ.ค. ) ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจาก นาย สถิต ม่วงทอง เจ้าของเรือประมง ก.สิริกุล 1 เป็นเรือลากแผ่นตะเฆ่ ขนาด 58 ตันกรอส ยาวประมาณ 19 เมตร บนเรือมีลูกเรือ จำนวน 8 คน เป็นคนไทยทั้งหมด หลังประสบเหตุคลื่นลมในทะเลสูงบริเวณ ประมาณ 2 เมตร ทำให้เกิดเหตุน้ำรั่วเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และกำลังจะจมลง ระยะ 87.2 ไมล์ทะเล จากท่าเรือบางสะพาน จว.ประจวบคีรีขันธ์

ในการนี้ พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้สั่งการให้เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 ขึ้นบินค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุทันที และเมื่อเวลา 11.20 น. ได้พบกับผู้ประสบภัยทั้ง 8 คน ขณะกำลังลอยคอเกาะอุปกรณ์ช่วยชีวิต รอความช่วยเหลืออยู่กลางทะเล โดยที่เรือ ก.สิริกุล 1 ได้จมลงไปแล้ว เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 จึงได้ประสานกับเรือประมงชื่อ ต.วิชัยสิน ออกเรือหาปลาอยู่บริเวณใกล้เคียง ให้เข้ามาช่วยรับผู้ประสบภัยทั้ง 8 คน ขึ้นเรือก่อนในเบื้องต้น

หลังจากนั้นผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการทันทีให้เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นักทำลายใต้น้ำจู่โจม (มนุษย์กบ) ในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 จำนวน 2 นาย ขึ้นบินไปรับผู้ประสบภัยจำนวน 8 คน ด้วยการใช้การช่วยเหลือทางดิ่ง ดึงตัวผู้ประสบภัยขึ้นมาบนเฮลิคอปเตอร์จนครบทั้ง 8 คน และบินกลับถึงสนามบินอู่ตะเภา เมื่อเวลา 14.10 น.

โดยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ประสานให้โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ จัดรถพยาบาล จำนวน 2 คัน พร้อมให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ พร้อมทั้งประสานให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 จัดเจ้าหน้าที่ชุดสหวิชาชีพเตรียมให้การสนับสนุน ณ สนามบินอู่ตะเภา เมื่อเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่ 1 พร้อมผู้ประสบภัยทั้ง 8 คน เดินทางถึงแล้ว ได้ดำเนินการส่งผู้ประสบภัยทั้ง 8 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ผลการตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 โดยผู้ประสบภัย 5 คน อาการปลอดภัย สามารถกลับภูมิลำเนาได้ ส่วนอีก 3 คน อาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ต่อไป

อุตุฯ แจ้ง มรสุมมีกำลังแรง

จากสภาพอากาศในช่วงนี้ มีพายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวเบงกอล และกำลังทวีความรุนแรงขึ้นน ทำให้ส่งผลต่อสภาพอากาศในประเทศไทย โดยทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทย ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น

โดยฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร