ประเด็นน่าสนใจ
- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนุนแนวคิดของ เกรตา ธันเบิร์ก หยุดเรียนประท้วงรัฐบาลสวีเดน เพื่อเรียกร้องให้ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ
- ชี้ควรรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ เพราะนี่คืออนาคตของพวกเขา
- พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาล คำนึงถึงปัญหาหรือไม่ มีแผนการบริหารจัดการ หรือมาตรการป้องกันภัยพิบัติที่นับวันจะรุนแรงขึ้นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจแฟนบุ๊ก Yingluck Shinawatra กล่าวถึงกรณีหญิงสาวชาวสวีเดน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ พร้อมทั้งตั้งคำถามถึงรัฐบาลมีมาตรการจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างไร โดยมีข้อความระบุว่า
“ดิฉันได้มีโอกาสติดตามข่าวของ น้องเกรตา ธันเบิร์ก ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับเกรตา ธันเบิร์ก สาวน้อยวัยเพียง 16 ปี ชาวสวีเดน ที่มีทั้งความมุ่งมั่นในการสร้างการรับรู้ของสังคมให้ตระหนักถึงผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน โดยเธอหยุดเรียนเพื่อประท้วงทุกวันศุกร์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ตามความตกลงปารีส (Paris Climate Agreement)
เกรตาได้จุดประกายให้เยาวชนทั่วโลกเข้าร่วมรณรงค์ปลุกกระแสสภาวะโลกร้อนให้เป็นวาระของโลก
เธอได้รับเชิญร่วมกับเยาวชนกลุ่มหนึ่งให้เข้าร่วมประชุมกับ the Senate climate crisis task force เธอเดินทางข้ามจากทวีปยุโรปมายังสหรัฐอเมริกาด้วยเรือที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แทนการเดินทางด้วยเครื่องบินที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล โดยเธอได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสหันมาสนับสนุนการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังภาวะโลกร้อนซึ่งเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาวะแวดล้อมโลก เป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เกิดการละลายของน้ำแข็งที่อาร์คติก ไฟป่าแอมะซอน คลื่นความร้อนในยุโรปและอินเดีย
ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้งเมื่อหลายเดือนก่อน รวมไปถึงภาวะน้ำท่วมใหญ่ในบ้านเราเอง สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับเศรษฐกิจ ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเกรตาเชิญชวนให้เยาวชนทั่วโลกร่วมรณรงค์ในโครงการ Fridays for Future ในวันศุกร์ที่ 20 และ 27 กันยายนนี้ และดีใจที่ได้ทราบว่าที่ประเทศไทย โดยกลุ่ม Global Climate Strike ก็ได้จัดกิจกรรมนี้เช่นกันค่ะ
ดิฉันจึงขอร่วมเป็นหนึ่งแรงสนับสนุนในความคิดและวิสัยทัศน์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรับฟังและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ ๆ ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะนี่คืออนาคตของพวกเขา และขอตั้งคำถามไปยังผู้บริหารประเทศในขณะนี้ว่าท่านได้คำนึงถึงปัญหาหรือไม่ มีแผนการบริหารจัดการ หรือมาตรการป้องกันภัยพิบัติที่นับวันจะรุนแรงขึ้นอย่างไร เพราะทุกคนคงไม่อยากเห็นปัญหาและผลกระทบจากอุทกภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติแบบที่เป็นเหมือนวันนี้ทุกปี ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว เพราะคนที่ทุกข์คือพี่น้องประชาชนค่ะ”