ประเด็นน่าสนใจ
- มีรายงานชาวอเมริกันผิวดำ มีอัตราการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด เพียง22% เท่านั้น
- ในขณะที่ชาวผิวขาวได้รับวัคซีนแล้ว 33%
- นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมีกลุ่มเชื้อชาติต่าง ๆ มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่สูงกว่าคนผิวขาว
รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มานานหลายเดือนแล้ว เปิดเผยว่าชาวอเมริกันผิวดำมีอัตราการฉีดวัคซีนรั้งท้าย ขณะชาวลาตินอเมริกามีอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น และชาวอเมริกันพื้นเมืองมีอัตราการฉีดวัคซีนโดยรวมสูงสุด
ข้อมูลของไกเซอร์ เฮลธ์ นิวส์ (KHN) จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ซึ่งพิจารณาเชื้อชาติและชาติพันธุ์ของผู้รับวัคซีนในแต่ละรัฐ ชี้ว่ามีชาวอเมริกันผิวดำได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพียงร้อยละ 22 และยังคงตามหลังคนผิวขาวในเกือบทุกรัฐของประเทศ
ความพยายามฉีดวัคซีนตามเป้าหมายช่วยให้อัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยชาวลาตินอเมริกาใน 8 รัฐ เขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย และเปอร์โตริโก ได้รับวัคซีนในอัตราสูงกว่าคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวลาตินอเมริกา แต่สำหรับภาพรวมระดับประเทศ มีชาวลาตินอเมริกาได้รับวัคซีนเพียงร้อยละ 29 ต่ำกว่าคนผิวขาวที่อยู่ที่ร้อยละ 33
ขณะเดียวกันร้อยละ 45 ของชาวอเมริกันพื้นเมืองได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว โดยมีสัดส่วนแตกต่างตามพื้นที่อยู่อาศัย ด้านอัตราการฉีดวัคซีนของชาวเอเชียในสหรัฐฯ คงระดับสูงในหลายรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 41
“ผลวิเคราะห์เน้นย้ำความไม่เท่าเทียมด้านวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แม้คณะบริหารภายใต้การนำของโจ ไบเดน พยายามจัดลำดับความสำคัญของการกระจายวัคซีนแต่ยังคงเกิดช่องว่างอยู่ กลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่สูงกว่าคนผิวขาว รวมถึงเผชิญความเสี่ยงติดเชื้อเมื่อหลายรัฐเริ่มเปิดเศรษฐกิจและยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัย” สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) พร้อมอ้างอิงตัวเลขและอัตราการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ปัจจุบันชาวอเมริกันราวร้อยละ 47.9 ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสแล้ว โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันร้อยละ 70 อย่างน้อย 1 โดส ก่อนวันที่ 4 ก.ค. นี้
ที่มา – ซินหัว