ประเด็นน่าสนใจ
- โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายยับยั้งอาชญกรรมความเกลียดชังต่อคนเอเชีย
- ซึ่งพุ่งสูงระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ
- กฎหมายนี้จะมอบอำนาจให้กระทรวงยุติธรรมเร่งตรวจสอบอาชญากรรมความเกลียดชังที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 อนุญาตให้รัฐท้องถิ่นจัดตั้งสายด่วนรับรายงานอาชญากรรมความเกลียดชัง
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายยับยั้งอาชญกรรมความเกลียดชังต่อคนเอเชีย ซึ่งพุ่งสูงระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ
ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี ขอบคุณสมาชิกสภานิติบัญญัติที่สนับสนุนร่างกฎหมายข้างต้นอย่างท่วมท้น โดยไบเดนกล่าวว่า “ผมอยากบอกทุกคนที่กำลังเจ็บปวดอยู่ว่าเรารับรู้และจะเดินหน้าหยุดยั้งความเกลียดชังและความอคติ”
“การเหยียดเชื้อชาติ ความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ รวมถึงการต่อต้านชาวยิว ชาวอิสลาม กลุ่มคนรักร่วมเพศ และกลุ่มคนข้ามเพศ มีอยู่จริงในสหรัฐฯ ร่างกฎหมายนี้ทำให้เราเข้าใกล้การหยุดยั้งความเกลียดชังขึ้นอีกก้าว และไม่ใช่ความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเท่านั้น แต่เป็นชาวอเมริกันทุกกลุ่ม” แฮร์ริสกล่าว
เมื่อวันอังคาร (18 พ.ค.) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมเกลียดชังจากโรคโควิด-19 ด้วยคะแนนเสียง 364 ต่อ 62 คะแนน หลังจากวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายนด้วยคะแนนเสียง 94 ต่อ 1 คะแนน
กฎหมายนี้จะมอบอำนาจให้กระทรวงยุติธรรมเร่งตรวจสอบอาชญากรรมความเกลียดชังที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 อนุญาตให้รัฐท้องถิ่นจัดตั้งสายด่วนรับรายงานอาชญากรรมความเกลียดชัง พร้อมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อป้องกันและระบุประเภทอาชญากรรมดังกล่าว รวมถึงกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลางประสานงานกับองค์กรชุมชน เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมความเกลียดชังระหว่างเกิดการระบาดใหญ่
ผลการศึกษาฉบับล่าสุดของศูนย์การศึกษาความเกลียดชังและแนวคิดสุดโต่ง สังกัดมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนียในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน ระบุว่ามีการรายงานคดีอาชญากรรมความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใน 16 เมืองและเทศมณฑลขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 164 นับตั้งแต่ปีก่อน
ด้านศูนย์รายงานการยุติความเกลียดชังชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก (Stop AAPI Hate) ระบุว่าศูนย์ฯ ได้รับคำร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมประเภทข้างต้นจากตัวผู้เสียหายเองถึง 6,603 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2020 โดยเกือบ 2 ใน 3 ของผู้เสียหายเป็นผู้หญิง
ตัวเลขข้างต้นสะท้อนว่าความเกลียดชังชาวเอเชียระหว่างการระบาดใหญ่พุ่งสูงอย่างน่าวิตกกังวล พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาดำเนินการแก้ไข ซึ่งรวมถึงสภาคองเกรส
ที่มา : Xinhua