งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 งบรัฐบาล

โฆษก รบ.ชี้แจง รัฐบาลจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 อย่างเหมาะสม

นายกฯ และ ครม. พร้อมชี้แจงการจัดสรรงบประมาณต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจน ในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. นี้

Home / NEWS / โฆษก รบ.ชี้แจง รัฐบาลจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 อย่างเหมาะสม

ประเด็นน่าสนใจ

  • โฆษก รบ.ชี้แจง รัฐบาลจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์
  • สาเหตุที่บางกระทรวงฯ ได้รับการจัดสรรงบจำนวนมาก เพราะเป็นรายจ่ายประจำตามจำนวนบุคลากร
  • นายกฯ และ ครม. พร้อมชี้แจงการจัดสรรงบประมาณต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจน ในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย. นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อนำเสนอสภาฯ กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย จำนวน 3,100,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2564 จำนวน 185,962.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.66 โดยมีประมาณการรายได้สุทธิ จำนวน 2,400,000 ล้านบาท และกำหนดวงเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 700,000 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในกรอบสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ กรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจํานวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุล ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่น ได้แก่ ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) การลงทุนของหน่วยงานในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (THAILAND FUTURE FUND) และการใช้เงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ส่วนกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ได้รับงบน้อยกว่ากระทรวงกลาโหมนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง ข้อเท็จจริงแล้วว่า การจัดสรรงบมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ บางส่วนจะนำไปใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ด้วย

ส่วนสาเหตุที่งบประมาณของบางกระทรวงมีจำนวนมากนั้น เนื่องจากเป็นรายจ่ายประจำที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของกระทรวง เช่น ศธ.ที่มีบุคลากรครูทั่วประเทศ และกองทัพที่มีกำลังพลจำนวนมาก ส่วนงบรายจ่ายอื่น ๆ จะเป็นไปตามสถานการณ์ เช่น สธ.จะต้องมีงบในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และการจัดหาวัคซีน

ทั้งนี้ นายกฯ และ ครม. พร้อมชี้แจงการจัดสรรงบประมาณต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจน ในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย. นี้