คดีฉ้อโกง ประสิทธิ์ เจียวก๊ก

กลุ่มผู้เสียหายคดี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” สวมชุด PPE ร้องให้ติดตามอายัดทรัพย์ผู้ต้องหา

กลุ่มผู้เสียหายจากกรณี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” พร้อมทนายรณณรงค์ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและออกคำสั่งไปยังกองบังคับการปราบปราม ยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ

Home / NEWS / กลุ่มผู้เสียหายคดี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” สวมชุด PPE ร้องให้ติดตามอายัดทรัพย์ผู้ต้องหา

ประเด็นน่าสนใจ

  • กลุ่มผู้เสียหายจากกรณี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” พร้อมทนายรณณรงค์ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
  • เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและออกคำสั่งไปยังกองบังคับการปราบปราม ยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ
  • มีมูลค่าความเสียหายจากธุรกิจที่มีค่าความเสียหายกว่า 209,132,027.31 บาท

วันนี้ (19 พ.ค.64) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมืองทองธานี กลุ่มผู้เสียหายจากกรณี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและออกคำสั่งไปยังกองบังคับการปราบปราม ยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่มีมูลค่าความเสียหายจากธุรกิจที่มีค่าความเสียหายกว่า 209,132,027.31 บาท

ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายคํานึงถึงความปลอดภัยต่างพร้อมใจกันสวมใส่ ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ มีการแพร่ระบาดได้ง่ายอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เนื่องจากในคดีนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาเป็นจำนวนมาก

โดยทนายรณณรงค์  กล่าวว่า วันนี้จุดประสงค์ที่เดินทางมาเพื่อติดตามทวงถาม และทวงเงินคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหาย โดยขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางออกคำสั่งถึงกองปราบปรามให้ติดตามเส้นทางการเงินที่อาจจะถูกโยกย้ายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ขอให้มีการรวบรวมทรัพย์สินมาที่ส่วนกลางทั้งหมดเพื่ออาญัติและแจกจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากกองปราบปรามเปิดเผยว่า ไม่กล้าอายัดทรัพย์สินจากคดีดังกล่าว ทางทนายจึงต้องมีการประสานมายังหน่วยงานนี้เพื่อขอให้มีการออกคำสั่ง

ส่วนตัว เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายจากคดีดังกล่าวก็ขอให้ออกมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทวงทรัพย์สินคืน อย่างไรก็ตามจากพฤติการณ์การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ในปีที่ผ่านมา 2563 เชื่อว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถดำเนินธุรกิจได้และได้ผลกำไร จึงไม่มีการนำเงินมาปันผลให้กับผู้มาลงทุนอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังเชื่อว่าคดีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับในหลายส่วนทั้งกองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และรวมไปถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ด้านพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า เรื่องนี้ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือนเมษายนแล้วซึ่งได้มีการเนินการตรวจสอบมาโดยตลอดและพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้น จึงได้มีการตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อมาช่วยสอบสวน โดยผู้เสียหายที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่ระหว่างประสานพื้นที่ให้ช่วยสอบสวนเพื่อไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลางป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนของการยึดอายัดทรัพย์ก็ได้มีการประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน

ส่วนการแจ้งข้อหาอื่นกับนายประสิทธิ์ หามีหลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงก็จะดำเนินการเพิ่มทันที ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลซึ่งทราบว่าอาจมีผู้ต้องหา ประมาณ 5-6 คน ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือไม่ตำรวจก็เร่งดำเนินการอยู่


ภาพ : วิชาญ โพธิ

….

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :