หลายหน่วยงานรวมถึงชาวบ้าน ต่างช่วยกันเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย “พายุปาบึก” ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนอีกเป็นจำนวนมาก
นางวาส บรรจงแต้ม ชาวบ้านตำบลดอนตรอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ว่าจ้างคนงาน ให้รีบมาซ่อมแซมบ้าน เพราะเห็นว่าหากรอความช่วยเหลือจากทางราชการอาจล่าช้า และที่สำคัญยังรู้สึกหวาดผวา ว่าบ้านที่ยังไม่ซ่อมแซมอาจพังทลายเพราะแรงลมได้อีก
ด้านนางบุญเรือน ทองจำรัส กล่าวว่า ในวันที่พายุปาบึกพัดถล่มหมู่บ้าน ได้ตัดสินใจนำลูกหลานรวม 6 ชีวิต หนีตายออกจากบ้านพักในช่วงนาทีสุดท้าย ก่อนที่ต้นไม้ขนาดใหญ่นับสิบต้นจะถูกแรงลมโค่นล้มทับบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง
เช่นเดียวกับทรัพย์สินในบ้านทั้งหมด ซึ่งสูญเสียไปพร้อมแรงลม และจนถึงขณะนี้ยังอาศัยหลังคาเพื่อนบ้านเป็นที่พักพิงชั่วคราว เพราะต้องรอคิวจากหน่วยทหาร ซึ่งรับปากว่าจะมาซ่อมแซมบ้านให้แต่ยังไม่ระบุเวลา เพราะความเสียหายเกิดเป็นวงกว้าง
ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุในตำบลดอนตรอได้รับความช่วยเหลือซ่อมแซมแล้วกว่าครึ่งหนึ่งจำนวนเกือบ 300 หลัง
ซึ่ง นายวัชร สุขเกื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนตรอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า นอกเหนือจากการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างแล้ว ต้องเร่งฟื้นฟูขวัญกำลังใจผู้ประสบภัยเพราะหลายคนยังอยู่ในอาการหวาดผวาจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
ขณะที่ เครือข่ายจัดการภัยพิบัติตั้งข้อสังเกตุว่าหน่วยงานภาครัฐตั้งโจทย์การฟื้นฟูผู้ประสบภัยพายุยังไม่ตรงกับสภาพปัญหา ชาวบ้านต้องการให้เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนและฟื้นฟูเรื่องอาชีพ แต่พบว่าหลายหน่วยงานยังคงมีการแจกถุงยังชีพเช่นเดิม
ด้าน นายโกเมศร์ ทองบุญชู ผู้ประสานงานเครือข่ายจัดการภัยพิบัติ จังหวัดนครศรีธรรมราชระบุเพิ่มเติมอีกว่ามีกลุ่มอาสาสมัครอีกจำนวนมากต้องการเข้าไปช่วยเหลือซ่อมสร้างบ้านเรือนที่เสียหายจากแรงพายุ แต่ยังขาดการประสานงานที่ดีจากทางจังหวัด
ทำให้เกิดช่องว่างและความล่าช้าในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภาพความเดือดร้อนจึงยังไม่จางหายไปจากจังหวัด