ดินถล่ม น่าน น้ำท่วม พะเยา

[น้ำท่วมภาคเหนือ] ฝนถล่มน่าน-พะเยาอ่วม ! น้ำไหลหลากที่เชียงราย

วันที่ 1 สิงหาคม 2562 : จังหวัดน่าน ยังมีฝนตกหนัก ปริมาณฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง สูงเข้าขั้นวิกฤต เตือน 26 หมู่บ้านใน 9…

Home / NEWS / [น้ำท่วมภาคเหนือ] ฝนถล่มน่าน-พะเยาอ่วม ! น้ำไหลหลากที่เชียงราย

ประเด็นน่าสนใจ

  • เกิดเหตุฝนตกหนักในจังหวัดน่านและพะเยา กระทั่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • มีการเตือนภัย เฝ้าระวัง อพยพประชาชนออกนอกพื้นที่
  • มีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม หลายพื้นที่

วันที่ 1 สิงหาคม 2562 : จังหวัดน่าน ยังมีฝนตกหนัก ปริมาณฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง สูงเข้าขั้นวิกฤต เตือน 26 หมู่บ้านใน 9 อำเภอ เตรียมอพยพ เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ส่วนที่จังหวัดพะเยา ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ปง และ อ.จุน

มีการแจ้งเตือนภัยเฝ้าระวัง เพื่อเตือนภัยอพยพ ระดับสีแดง และสีส้ม แจ้งเตือน 26 หมู่บ้าน ใน 9 อำเภอ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มเตรียมพร้อมอพยพอยู่ในที่ปลอดภัยหลังปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ มาเป็นวันที่สองติดต่อกัน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น่านและแม่น้ำสาขาเพิ่มระดับสูงขึ้นรวดเร็ว โดยเฉพาะที่บ้านปางยาง ต.ภูคา อ.ปัว ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงถึง 204 มิลลิเมตร และที่บ้านก่อกวง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ ปริมาณน้ำฝนสะสมสูง 178 มิลลิเมตร

โดยทางจังหวัดได้ขอประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้น และติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมอพยพอยู่ในที่ปลอดภัย โดยทางอำเภอปัว ได้สั่งการเตรียมพร้อมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ พร้อมออกช่วยเหลือชาวบ้านทันที

ขณะที่สถานการณ์ บ้านป่าอ้อย ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข วันนี้เกิดน้ำป่าไหลหลากในลำน้ำมวบ กระแสน้ำเชี่ยวกรากจนพัดสะพานไม้ไผ่ขาดลอยหายไปกับสายน้ำ นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักทำให้ในพื้นที่บ้านมณีพฤกษ์ หมู่ที่ 11ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน เกิดเหตุดินสไลด์ทับบ้านอีกหนึ่งหลังที่อยู่ถัดลงไปได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการเข้าให้ความช่วยเหลือ ส่วนที่จังหงัดพะเยาก็เกิดน้ำป่าไหลหลากเช่นกัน

โดยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 34, สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด นำกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.นาปรัง อ.ปง หลังจาก เกิดฝนตกหนัก และเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวนกว่า 30 หลังคา รวมถึงทรัพย์ของประชาชน คอสะพาน ได้รับความเสียหาย ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายด้วย

เบื้องต้นทางจังหวัดได้นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น พร้อมทั้งได้นำเครื่องผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ เข้าบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน

สำหรับพื้นที่ประสบอุทุกภัย ขณะนี้อยู่ที่ ต.พระธาตุขิงแกง อ.จุน ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำป่าไหลหลาก จำนวน 5 หมู่บ้าน ส่วนที่จังหวัดชลบุรี เกิดพายุฝนกระหน่ำและมาอย่างรวดเร็วพร้อมลมกระโชกรุนแรงช่วงบริเวณสนามหน้าอำเภอเมืองชลบุรี อ.เมือง กว่า 1 ชั่วโมง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดโต้รุ่ง กว่า 100 ราย ที่ตั้งร้านขายอาหารและของกินจิปาถะพังระเนระนาด หม้อข้าวแกง โต๊ะเก้าอี้ ล้ม รวมทั้งเต๊นส์ที่ตั้งบังแดดกระจายเกลื่อน เสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้น้ำทะเลหนุน ถนนหลายสายเริ่มร่วม แม้แต่งูเหลือมที่มีความยาวกว่า 5 เมตร ยัง หนีน้ำขึ้นมา อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้เฝ้าระวังน้ำที่อาจจะขึ้นสูงหากฝนตกลงมาอีกระลอก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้

ส่วนบริเวณภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับบริเวณทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากผั่งจนถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2562

โดย พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แล้วเคลื่อนผ่านประเทศจีนตอนใต้ และขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม 2562 ซึ่งจะทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจะมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือก่อน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีนตอนใต้ และประเทศเวียดนามตอนบน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย


น้ำไหลหลากในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานเกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 – 31 กรกฎาคมที่ผ่าน เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทิง และอำเภอป่าแดด รวม 4 ตำบล 10 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป


 

วันที่ 31 ก.ค. 2562 : มีรายงานภัยพิบัติทางธรรมชาติในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เริ่มที่จังหวัดน่าน ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่เข้าวันที่ 2 ทำให้ระดับน้ำในแม่น่านและแม่น้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มีการแจ้งเตือน 26 หมู่บ้านใน 9 อำเภอ เฝ้าระวัง เตือนภัย อพยพ เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนในระดับสีส้ม ไปจนถึงสีแดง โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต่าง ๆ

  • บ้านปางยาง ต.ภูคา อ.ปัว ปริมาณน้ำฝนสะสมอยู่ที่ 204 มิลลิเมตร
  • บ้านก่อกวง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ ปริมาณน้ำฝนสะสมสูง 178 มิลลิเมตร

อย่างไรก็ตาม มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ขอให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากอาจเกิดดินถล่มได้ ขอให้ชาวบ้านเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้ที่สูง และติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมอพยพอยู่ในที่ปลอดภัย

ส่งนทางด้านนายชนาธิป เสมแย้ม นายอำเภอปัว ได้สั่งการเตรียมพร้อมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอและส่วนท้องถิ่น พร้อมออกช่วยเหลือชาวบ้านทันทีหากเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่ ติดตามข้อมูล และข่าวสารจากทาง ราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม

นอกจากนี้เพจเฟซบุ๊กชื่อ ที่นี่เมืองน่าน ได้เปิดเผยภาพสถานการณ์ผนตกหนักในพื้นที่บ้านมณีพฤกษ์ หมู่ที่11ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน จนกระทั่งมีเหตุดินสไลด์มาทับบ้านอีกหนึ่งหลังที่อยู่ถัดลงไปได้รับความเสียหายอย่างหนัก

เตือน พื้นที่เสี่ยง 9 อำเภอ จังหวัดน่าน เตรียมอพยพ เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม ในขณะที่ เครื่องบินไม่สามารถ ลงจอดได้

สถานการณ์ฝนตกอย่างหนักในจังหวัดน่าน มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่มาเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น่านและแม่น้ำสาขาเพิ่มระดับสูงขึ้นรวดเร็ว และระบบแจ้ง เตือนภัยเฝ้าระวัง เตือนภัยอพยพด้วยปริมาณน้ำฝน แจ้งเตือน หมู่บ้านใน 9 อำเภอ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะที่บ้านปางยาง ต.ภูคา อ.ปัว ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงถึง 204 มิลลิเมตร และ ที่บ้านก่อกวง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ ปริมาณน้ำฝนสะสมสูง 178 มิลลิเมตร

ทั้งนี้ทางการให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ขอให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นได้ขอให้ชาวบ้านเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้ที่สูง และติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมอพยพอยู่ในที่ปลอดภัย ด้านนายชนาธิป เสมแย้ม นายอำเภอปัว ได้สั่งการเตรียมพร้อมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอและส่วนท้องถิ่น พร้อมออกช่วยเหลือชาวบ้านทันทีหากเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

ที่มา สวท.น่าน

จังหวัดน่าน เตือน 39 หมู่บ้านเสี่ยงดินโคลนถล่ม

เริ่มกันที่สถานการณ์ดินโคลนถล่ม โดยที่จังหวัดน่าน เตือน 39 หมู่บ้านเสี่ยงภัย ดินโคลนถล่ม หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่วนที่บ่อเกลือต้องสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว

นี่ก็คือสภาพของ น้ำป่าที่ไหลหลากลงมา หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืนวานนี้ ทำให้เกิดดินโคลนสไลด์ปิดเส้นทางเข้าหมู่บ้านป่ากำและขุนน้ำจอน ต.ดงพญา จ.น่าน ส่งผลให้ ดินสไลด์ปิดเส้นทางและมีเสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้

นอกจากนี้ ยังมีดินสไลด์ริมทางถนนบ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ บริเวณจุดบ้านห้วยโป่ง หมู่ที่ 15 ตำบลบ่อเกลือใต้ ซึ่งต้องอพยพชาวบ้าน ใกล้บริเวณดังกล่าวออกจากพื้นที่ เนื่องจากเสี่ยงดินสไลด์ โดยอพยพไปยังศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านบ่อหลวง (สาขาห้วยโป่ง) และเตรียมเฝ้าระวังอีกกว่า 10 หลังคาเรือน ที่เสี่ยงภัยดินสไลด์ทับบ้านด้วย

ขณะที่บ้านก่อก๋วง หมู่ที่ 11 ต.บ่อเกลือใต้ ทางจังหวัดสั่งต้องเฝ้าระวัง หลังเริ่มมีการทรุดตัวของดินจากน้ำฝนที่ตกลงมา โดยขณะนี้หมวดการทางฯ ได้เร่งนำเครื่องจักรขุดลอกร่องน้ำเพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำ ป้องกันไม่ให้เกิดการเซาะดินและดินทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น

นายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอบ่อเกลือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนและหมู่บ้านเสี่ยงภัย 39 หมู่บ้าน ทั่วทั้ง อ.บ่อเกลือ โดยมี 20 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่ตามแนวริมทางถนนที่มีดินสไลด์ และหมู่บ้านในหุบเขาและที่ราบเชิงเขา โดยทางจังหวัดได้ติดตามประเมินสถานการณ์ เตรียมพร้อมอพยพคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพะเยา

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพะเยาในช่วงเช้าวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 เกิดเหตุน้ำป่าลำห้วยห้วยแพะ เส้นทางปง จังหวัดพะเยา ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านห้วยคอกหมู ตำบลนาปรัง โดยมีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย

ขอบคุณที่มารูปภาพ ที่นี่เมืองป๋ง อำเภอปง จังหวัดพะเยา

วันที่ 31 ก.ค. 62 เวลา 10:00 น. น้ำป่าห้วยน้ำเงิน อ.ปง จ.พะเยา  เริ่มเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และเส้นทางเข้าพื้นที่การเกษตรบ้านใหม่น้ำเงิน ต.งิม และจะไหลไปสมทบกับน้ำงิม ที่บ้านดอนเงิน ทั้งนี้ทางการได้ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง รอดูสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ที่มา สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยา

เจ้าหน้าที่พาร่างบริจาคคุณตาวัย 85 ใส่เรือท้องแบนลุยน้ำเชี่ยวกรากส่ง รพ.เชียงใหม่ ไปใช้ศึกษาให้กับนักเรียนแพทย์

วันนี้ ( 31 ก.ค. 2562 ) หลังจากฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาส่งผลให้พื้นที่ อ.ปง และ อ.จุน จ.พะเยา เกิดน้ำทะลักเข้าถนน หมู่บ้านและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านจนเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ออย ต.งิม ต.ขุนตวร อ.ปง และที่พื้นที่ ต.พระธาตุขิงแกง อ.จุน จ.พะเยา ได้รับความเสียหายมากที่สุด

ในขณะเดียวกันก็มีเหตุสลดเมื่อพ่ออุ้ยตาคำ ไชยสถาน อายุ 85ปี หมู่ 4 บ้านเลขที่ 67 ต.พระธาตุขิงแกง ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชราและเป็นผู้บริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย ปรากฏว่าไม่สามารถนำร่างของพ่ออุ้ยตาคำ ออกจากบ้านได้ เนื่องจากถนนเข้าหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำและและแสน้ำมีความรุนแรงรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากไม่สามารถบอกแนวถนนได้ เรืออากาศตรี อดุลย์ พรหมวาทย์ นายอำเภอจุน จึงสั่งการให้ทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเวียงลอ จึงได้เรือท้องแบนพร้อมเจ้าหน้าที่เกือบ 20 นาย เข้าพื้นที่นำร่างของผู้เสียชีวิตออกมา เพื่อให้ร่างกายสดและนำส่ง คณะแพทยศาสตร์ มช.ทันที

การนำร่างของผู้เสียชีวิตเพื่อส่งต่อคณะแพทย์ฯ เป็นไปอย่างยากลำบาก เนืองจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก มีความขุ่นแดง ไม่สามารถมองเห็นขอบถนนได้ จึงต้องอาศัยแรงเจ้าหน้าที่และแรงของชาวบ้านช่วยกันพยายามดันและประคองเรือท้องแบนไม่ไหลไปตามแรงของกระแสน้ำ จนในที่สุดก็สามารถนำส่งของผู้เสียชีวิตได้

ในด้านการช่วยเหลือของส่วนราชการ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ อ.ปง และ อ.จุน อปท.ต่างๆ ได้ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์เข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว

ขอบคุณที่มา พะเยาทีวี , ทีมข่าวจิตอาสาพะเยาทีวี อ.จุน