LIDO CONNECT ลิโด

กลับมาอีกครั้ง!! “ลิโด” ตำนานกว่า 50 ปี การเปลี่ยนแปลงแบบร่วมสมัย

วันนี้ ( 1 ส.ค. 62 ) หลังจาก “โรงภาพยนตร์ ลิโด มัลติเพล็กซ์ ” ได้ปิดตัวลงหลังจากฉายหนังรอบสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561…

Home / NEWS / กลับมาอีกครั้ง!! “ลิโด” ตำนานกว่า 50 ปี การเปลี่ยนแปลงแบบร่วมสมัย

ประเด็นน่าสนใจ

  • สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ได้เปิดตัวการกลับมาอีกครั้งในชื่อ LIDO CONNECT
  • เพื่อให้สยามสแควร์ ยังคงเป็นแหล่งรวบรวมศิลปะวัฒนธรรม นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ Co-Cultural Space

วันนี้ ( 1 ส.ค. 62 ) หลังจาก “โรงภาพยนตร์ ลิโด มัลติเพล็กซ์ ” ได้ปิดตัวลงหลังจากฉายหนังรอบสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 โดยมีตำนานกว่า 50 ปี ของโรงภาพยนตร์ ลิโด มัลติเพล็กซ์ ในบทบาทของโรงภาพยนตร์ชั้นนำ และแหล่งรวมแฟชั่นบนพื้นที่ของย่านสยามสแควร์ จึงทำให้สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ถือสัมปทานพื้นที่สยามสแควร์ต้องทำการจัดสรรพื้นที่แห่งนี้

ล่าสุดวันนี้ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ได้เปิดตัวการกลับมาอีกครั้งในชื่อ LIDO CONNECT ที่ต้องการให้สยามสแควร์ ยังคงเป็นแหล่งรวบรวมศิลปะวัฒนธรรม นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ Co-Cultural Spaceให้พื้นที่ใจกลางสยามอย่างลิโด้ เป็นแหล่งรวบรวมศิลปะวัฒนธรรม นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เป็นพื้นที่ในการแสดงออกที่สามารถต่อยอดในอาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่จำกัด

ทั้งนี้ชื่อลิโด้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ “ไม้โท” ยังคงใช้ชื่อว่า “LIDO” เพื่อความเคารพสถานที่เดิม แต่เติมคำว่า CONNECT เข้าไปเป็น LIDO CONNECT เพื่อให้ย้ำเป้าหมายที่ต้องการเชื่อมทุกกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างไม่ปิดกั้น ในการเปลี่ยนผ่านจาก “ลิโด” สู่ “ลิโด้ คอนเน็ค” เลือกที่จะเติมเต็มสิ่งที่พื้นที่ในย่านสยามสแควร์ยังขาดอยู่

โดยเฉพาะพื้นที่ในการแสดงออกทางด้านดนตรีได้อย่างเสรี ซึ่งจะเป็นตัวกลางที่จะนำมาสู่การต่อยอดในการสร้าง Art Community ในแขนงอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นด้านการละคร การแสดง ทอล์กโชว์ งานออกแบบ งานสร้างสรรค์ หรือการแสดงนวัตกรรมต่างๆ

สำหรับรูปแบบของลิโดที่จะมีการปรับปรุงด้วยแนวคิด Back to Original เพื่อการเคารพโรงภาพยนตร์เดิม และดึงเอาเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุค 70’s ซึ่งคือยุคที่โรงภาพยตร์ลิโดถูกสร้างขึ้นกลับมาใช้ เก็บโครงสร้าง และ element การตกแต่งภายในของยุค 90’s ไว้ ผสมผสานกับ design ในยุคปัจจุบัน

โรงภาพยนตร์ที่ 1 ที่นั่งเดิม มีจำนวนเก้าอี้ 147 -150 และจอฉายยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่ทว่าเอาพรมออกเพราะว่าสภาพการใช้งานที่ผ่านมาเนิ่นนาน เป็นที่สะสมของเชื้อโรค ทำความสะอาดยาก และอาจไม่คุ้มค่าต่อค่าบำรุงรักษา ส่วนการเลือกโปรแกรมหนังมาฉายนั้น ในเบื้องต้นมีเพียงความตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้โปรแกรมการฉายชนกับเรื่องที่ฉายอยู่ในสกาล่า ส่วนจะเลือกโปรแกรมมาฉายอย่างไรบ้างนั้นคงต้องติดตามต่อไป

ส่วนโรงภาพยนตร์ที่ 2 ที่มีขนาดใหญ่กว่าโรงภาพยนตร์ที่ 1 เก้าอี้ยังคงเก้บไว้ 234 ที่นั่ง เพิ่มไฟที่สามารถส่องเวทีได้ แต่เอาจอฉายภาพยนตร์ออก แล้วก็เพิ่มหลังเวทีที่เป็น Backstage แทน ให้เหมาะสำหรับกิจกรรมประเภทดนตรี หรือเรียกว่า Live House

ส่วนโรงที่ 3 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดให้กลายเป็น Black Box Theater โดยรื้อจอภาพยนตร์ออก รวมทั้งตกแต่งใหม่ด้วยการล้อมรอบโรงด้วยผ้าม่านดำ เติม Stage วางระบบไฟและเสียง เพื่อให้เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบ หรือมีความเป็น Multi Purpose

โดยเฉพาะในกลุ่ม Performing Art ไม่ว่าจะเป็นดนตรีสด ละคร ทอล์ก รวมทั้งงานโชว์หรือรองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ นำมาซึ่งการเกิด Community ใหม่ๆ ในพื้นที่นี้ด้วย ซึ่งจะมีงานระบบส่วนกลาง ทั้งการจองบัตร การประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบริหารและพัฒนาลิโดให้มีกิจกรรมสม่ำเสมอ ให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้ติดตาม