เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แอมมี่ เดอะบอททอมบูลส์ ไชยอมร แก้ววิบูลย์

“เพนกวิน-แอมมี่” พ้นเรือนจำ – หลังรับเงื่อนไขการประกันตัว

โดยได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงค่ำวานนี้

Home / NEWS / “เพนกวิน-แอมมี่” พ้นเรือนจำ – หลังรับเงื่อนไขการประกันตัว

ประเด็นน่าสนใจ

  • นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ุ หรือแอมมี่ ได้รับการปล่อยตัวแล้วเมื่อช่วงค่ำวานนี้
  • หลังจากยอมรับเงื่อนไขการประกันตัว เช่นเดียวกับแกนนำรายก่อนหน้านี้ คือ ไม่กระทำความเสื่อมเสียแก่สถาบันฯ, ไม่เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาต, ไม่ร่วมกิจกรรมก่อความวุ่นวาย และยินดีมารายงานตัวตามที่ศาลนัด
  • เพนกวิน แถลงต่อศาลระบุสาเหตุเรื่องการเรียน ปัญหาสุขภาพ ส่วนทางด้านของแอมมี่ ได้แถลงต่อศาลระบุเรื่องของสุขภาพที่เป็นโรคตา และห่วงบุตรสาว

วานนี้ ( 12 พ.ค.) ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ุ หรือแอมมี่ สองผู้ต้องหาคดี มาตรา 112 โดยมีเงื่อนไขการให้ประกันตัวเช่นเดียวกับแกนนำรายอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, ไผ่ ดาวดิน, รุ้ง ปนัสยา โดยห้ามกระทำการใดที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และเดินทางมาตามนัดของศาลทุกครั้ง ซึ่งศาลกำหนดหลักทรัพย์ในการประกันตัวของเพนกวิน คดีละ 200,000 บาท ในคดีม็อบเฟส และ ปักหมุดราษฎรที่สนามหลวง ส่วนแอมมี่ คดีปักหมุดราษฎรที่สนามหลวง 50,000 บาท และคดีเผาหน้าเรือนจำ 200,000 บาท

เพนกวินแถลงต่อศาล รับเงื่อนไข

ช่วงเช้าวานนี้ (11 พ.ค.) ได้มีการเบิกตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน หลังศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยเพนกวินได้ขึ้นแถลงต่อศาล ระบุว่า ตนเองอายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีประวัติด้านการศึกษาและได้รับรางวัลต่าง ๆ หลายรางวัล

ที่ผ่านมาไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาจนถึงที่สุดให้จำคุกมาก่อน โดยในวันนี้หากศาลกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยในคดีเดียวกัน ที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนหน้านี้ ก็ยินดีที่จะรับเงื่อนไขดังกล่าวด้วย

ซึ่งที่ผ่านมา ตนเอง (เพนกวิน) ไม่เคยกระทำการใด การเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยินดีรับเงื่อนไข จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ไม่เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล จะเดินทางมาศาลทุกนัด และได้แต่งตั้งทนายความในคดีแล้ว

ส่วนในกรณีการร่วมการชุมนุมนั้น ศาลระบุว่า การชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น สามารถกระทำได้ ซึ่งเพนกวินก็ได้ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และจะเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่สงบสันติเท่านั้น ไม่ร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

นอกจากนี้ เพนกวินยังได้ระบุถึงความจำเป็นในการประกันตัวว่า ตนเองเป็นโรคหอบหืด จำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง

เรื่องของการติดกำไล EM นั้น เพนกวินกังวลว่า จะกระทบต่อการเดินทางไปเรียนหนังสือ แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ ก็ยินดีที่จะติดกำไล EM ส่วนกรณีของการใช้สื่อโซเซียลมีเดียนั้น เพนกวินได้ตอบอัยการโจทก์ ระบุว่า ตนเองไม่เคยใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันแต่อย่างใด

ทางด้านของ ผศ.อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดี ฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้แถลงต่อศาลระบุว่า ตนเองมีหน้าที่ในการดูแลความประพฤติ ระเบียบวินัยต่างของนักศึกษา ที่ผ่านมาเพนกวินมีผลการเรียนดี ไม่เคยถูกลงโทษใดๆ มาก่อน หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกลับไปเรียนได้ เชื่อว่า เพนกวินจะปฏิบัติตาม และยินดีที่จะช่วยกำชับดูแลให้

หลังจากที่จบการแถลงต่อศาลเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการกระบวนการต่าง ๆ ในเรื่องเอกสารปล่อยตัว จนกระทั่ง ในเวลา 21.20 น. เพนกวิน ได้โดยสารรถพยาบาลของโรงพยาบาลวิภาวดีออกจากเรือนจำ โดยทั้งสองได้เปิดกระจกทักทายมวลชนที่มารอให้กำลังใจ โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ซึ่งเพนกวินได้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพทันที

แอมมี่ แถลงยอมรับเงื่อนไขเช่นเดียวกัน

นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ได้ขึ้นแถลงต่อศาลโดยระบุว่า ตนเองมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลลูกสาว จึงเป็นห่วงลูกสาว ในขณะเดียวกันก็มีโรคประจำตัว เกี่ยวกับกระจกตา ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนทุกวัน รวมถึงรับแสงได้น้อยมาก เสี่ยงต่อการตาบอดได้ ต้องรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเท่านั้น และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีแพทย์เฉพาะทางดังกล่าว รวมถึงเมื่อเข้าอยู่ในเรือนจำ ก็มีอาการของความดันโลหิตสูงด้วย

แอมมี่ ได้แถลงต่อว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีเจตนาหลบหนี การเดินทางไปที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น เป็นการไปพักผ่อน แต่งเพลง และทำธุรกิจ เดือนละ 2-3 ครั้ง ซึ่งเป็นการถูกจับระหว่างการเดินทางไปพักผ่อน ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

ยินดีรับเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน ไม่เดินทางออกนอกประเทศ ไม่ร่วมการชุมนุมที่ยั่วยุ หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และจะเดินทางมารายงานตัวตามที่ศาลกำหนด

ส่วนกรณีการติดกำไล EM นั้น แอมมี่ ได้แถลงว่า มีความกังวลอาจจะกระทบต่อการเล่นดนตรีที่อาจจะมีสัญญาณรบกวนกันได้ แต่หากเป็นเงื่อนไขที่ศาลกำหนดก็ยินดี

ทางด้านของบิดา-มารดา ของแอมมี่ได้ขึ้นเบิกความต่อศาล โดยระบุว่า แอมมี่เป็นผู้มีจิตใจดี ร่าเริง มีความประพฤติดีมาโดยตลอด เป็นผู้ที่ดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงการเลี้ยงดูบุตรสาวอีกด้วย นอกจากนี้มารดาของแอมมี่ยังระบุว่า ที่ผ่านมาทราบว่า บุตรชายได้ทำธุรกิจร้านอาหาร-ที่พักร่วมกับเพื่อนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย หากได้รับการปล่อยตัว บิดา-มารดาของแอมมี่ยืนยันจะดูแลให้แอมมี่ ปฏิบัตตัวตามเงื่อนไขของศาล

ซึ่งในเวลา 20.50 น. แอมมี่ ได้นั่งรถตู้ส่วนตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

แกนนำรายอื่น ๆ

นอกจากนี้ วันนี้ (11 พ.ค. 64) ศาลยังมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายร่อซีกีน นิยมเดชา หรือซี ซึ่งถูกดำเนินคดีจาการร่วมกิจกรรม “เขียนป้ายผ้า 112 เมตร” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 64 และคดีจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค 64 โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสด 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามกระทำการใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาต และเดินทางมาตามนัดศาลทุกครั้ง

ในส่วนของนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ที่มีการของยื่นประกันตัวพร้อมกันในวันนี้ ศาลได้สั่งเลื่อนไต่สวนออกไปก่อน เพื่อรอผลตรวจ COVID-19 จากราชทัณฑ์


ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล