น้ำพริกหนุ่ม

พบสารกันบูดน้ำพริกหนุ่ม บางยี่ห้อเกินมาตรฐาน 11 เท่า

ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มในพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 17 ตัวอย่าง ในเดือนมิถุนายน 2562 และส่งตรวจวิเคราะห์หาปริมาณวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก เป็นครั้งที่ 2 โดย น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์…

Home / NEWS / พบสารกันบูดน้ำพริกหนุ่ม บางยี่ห้อเกินมาตรฐาน 11 เท่า

ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มในพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 17 ตัวอย่าง ในเดือนมิถุนายน 2562 และส่งตรวจวิเคราะห์หาปริมาณวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก เป็นครั้งที่ 2

โดย น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า จากผลทดสอบตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มที่พบสารกันบูดมีปริมาณสูงถึง 5,649.43 มก./กก. ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ถึง 11 เท่า โดยพบว่ามีเพียง 2 ตัวอย่างที่ไม่พบสารกันบูดเลย คือ น้ำพริกหนุ่มอุ้ยคำ (ตราขันโตก) จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ และน้ำพริกหนุ่ม ยี่ห้อ วรรณภา จากร้านวรรณภา จ.เชียงราย

นอกจากนี้ พบว่ามีน้ำพริกหนุ่ม 8 ตัวอย่าง ที่ตรวจพบสารกันบูดประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก แต่ไม่เกินมาตรฐาน (ไม่เกิน 500 มก./กก.) คือ

  • ยี่ห้อ แม่ศรีนวล จากร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 30.67 มก./กก. ,
  • ยี่ห้อ มารศรี น้ำพริกหนุ่มสูตรดั้งเดิม จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิก 36.92 มก./กก. ,
  • ยี่ห้อ แม่มารศรี น้ำพริกหนุ่ม-ปลาร้า จากร้านปะเลอะเยอะแยะ จ.เชียงราย พบปริมาณกรดเบนโซอิก 41.73 มก./กก.
  • ยี่ห้อ ป้าแอ็ด จากตลาดหลักเมือง จ.ลำปาง พบปริมาณกรดเบนโซอิก 387.38 มก./กก. ,
  • ยี่ห้อ ศุภลักษณ์ รสเผ็ดมาก จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิก 51.92 มก./กก.และกรดซอร์บิก 338.17 มก./กก. (รวม 390.09 มก./กก.) ,
  • ยี่ห้อ อำพัน จากร้านข้าวแต๋นของฝาก จ.ลำปาง พบปริมาณกรดเบนโซอิก 435.29 มก./กก.
  • น้ำพริกหนุ่มอุ้ยแก้ว จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิก 437.27 มก./กก.
  • ยี่ห้อ นันทวัน (เจียงฮาย สูตรดั้งเดิม)จาก จ.เชียงราย พบปริมาณกรดเบนโซอิก 455.80 มก./กก.

อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตถึงปริมาณกรดเบนโซอิกที่ตรวจพบเล็กน้อย อาจเป็นกรดเบนโซอิกจากธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้มาจากการเติมโดยผู้ผลิต เพราะสารกันบูดในปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้เพื่อการถนอมอาหาร

สำหรับน้ำพริกหนุ่มที่เหลืออีก 7 ตัวอย่าง ตรวจพบปริมาณสารกันบูดมากกว่า 500 มก./กก. ซึ่งเกินมาตรฐานและไม่มียี่ห้อใดเลยที่ให้ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ว่า ใช้สารกันบูด คือ

  • ร้านดำรงค์ จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 890.32 มก./กก.
  • น้ำพริกหนุ่มล้านนา จากตลาดของฝากเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 1,026.91 มก./กก.
  • ยี่ห้อ นิชา (เจ๊หงส์ น้ำพริกหนุ่ม) จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 1,634.20 มก./กก.
  • ยี่ห้อ เจ๊หงส์ จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 1,968.85 มก./กก.
  • ยี่ห้อ แม่ชไมพร จากตลาดสดอัศวิน จ.ลำปาง พบปริมาณกรดเบนโซอิก 2,231.82 มก./กก.
  • ยี่ห้อ ยาใจ (รสเผ็ด) จากร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก 3,549.75 มก./กก.
  • น้ำพริกหนุ่มอุมา จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิก 5,649.43 มก./กก.

นายแก้ว กังสดาลอำไพ กองบรรณาธิการ นิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวว่า แม้ร่างกายจะสามารถขับสารกันบูดออกได้ทางระบบปัสสาวะ แต่ถ้าหากเราได้รับสารกันบูดบ่อยๆ จากอาหารหลายชนิดในสามมื้อ โดยเฉพาะในอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารแปรรูป อาจเกิดปัญหาต่อตับและไตซึ่งต้องทำงานหนักในการขับออก

น.ส.พวงทอง ว่องไว เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ กล่าวว่า น้ำพริกหนุ่ม เป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อหาเป็นของฝาก จากผลตรวจน้ำพริกหนุ่มในครั้งนี้ พบว่ากว่าร้อยละ 63 มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน

ซึ่งทางเครือข่ายจะประสานสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อช่วยกันสำรวจคุณภาพมาตรฐานสินค้าของฝากประเภทอื่นๆ รวมถึงได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้วัตถุเจือปนอาหารให้ถูกต้องกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันยกระดับมาตรฐานของฝากภาคเหนือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว