‘ทนายรณณรงค์’ พาญาติ ‘พระเด็จ’ ร้อง ผบช.ภ.6 ส่งตำรวจมือดีช่วยสืบคดี ตามหาพระเด็จ หวั่นถูกฆาตกรรมอำพราง
จากกรณี พระเด็จ เปสโล (คงกระพันธุ์) อายุ 56 ปี พระลูกวัดของวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2561 ปลายปีที่ผ่านมา บนเทือกเขาผาขี้ควาย เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ นายอำเภอนครไทย รวมถึงชาวบ้านกว่า 100 คน ได้ช่วยกันออกติดตามค้นหามาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันก็ยังหาตัวไม่พบ โดยบุตรสาว คาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมเสียชีวิตไปแล้ว และเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจกองปราบปราม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้(17 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ พร้อมด้วย นางบุญศรี ขำมี และ น.ส.ช่อเพชร นวลวัน ภรรยา และ บุตรสาวของพระสมเด็จ เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าในคดีกับ พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.ภ.6 เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครพบตัวพระเด็จ
ขณะนี้อยู่ในระหว่างการค้นหาตัวแต่ยังไม่มีความคืบหน้า และไม่เชื่อว่าพระเด็จจะหลงป่าหายไปเอง เพราะพระเด็จคุ้นเคยกับเส้นทางขึ้นป่าเทือกเขาผาขี้ควายเป็นอย่างดี โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่เป็นเวลานานแล้ว ก่อนที่จะหายตัวไปมีชาวบ้านแจ้งว่าพระเด็จพร้อมกับพระอำนาจ ได้รับกิจนิมนต์ให้ขึ้นไปทำพิธีปักธงบนเทือกเขาผาขี้ควาย แต่พระอำนาจกลับลงมาตามปกติไม่พบว่าพระเด็จกลับลงมาด้วย
นอกจากนี้ ยังพบว่ากุฏิของพระเด็จถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย อีกทั้งก่อนหน้านี้พระเด็จเคยมีปัญหากับพระอำนาจในเรื่องส่วนตัว จึงน่าเชื่อได้ว่าพระเด็จอาจจะถูกฆาตกรรมอำพราง ขณะที่ปัจจุบันพระอำนาจถูกจำสึกเป็นฆราวาสเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะมีสีม่วง เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 3 ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทย แต่ยังให้การวกวนไปมา
ด้าน น.ส.ช่อเพชร นวลวัน บุตรสาวพระสมเด็จ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางครอบครัวได้ออกติดตามค้นหากันเรื่อยมา เพราะมีความหวังว่าสักวันอาจจะพบพ่อหรือพบร่างอันไร้วิญญาณไปแล้ว ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย มีชาวบ้านแจ้งเบาะแสตรงจุดใดก็รีบไปดูแต่ก็ไม่พบ ในประเด็นหลงป่าหายไปนั้นส่วนตัวไม่เชื่ออย่างแน่นอน ส่วนในช่วงบ่ายตนเองจะเดินทางไปที่ สภ.นครไทย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดเก็บดีเอ็นเอเอาไว้ก่อน เพื่อนำไปเทียบเคียงกับหลักฐานที่อาจจะพบในเร็ว ๆ นี้
พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.ภ.6 กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนั้นตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เร่งดำเนินการตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมประสานการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ และ พลเรือน ในประเด็นที่พระสมเด็จอาจเสียชีวิตไปแล้วนั้นขอให้ญาติทำใจให้สบายไว้ก่อน เพราะอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจชุดทำงานได้ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการค้นหาพระสมเด็จด้วย เช่น ใช้โดรนบินสำรวจในมุมสูง หรือ ใช้สุนัขตำรวจออกดมกลิ่นตามภาคพื้นดิน ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวอย่างเต็มที่ต่อไป พล.ต.ท.สุธีร์ กล่าว