ประเด็นน่าสนใจ
- บิ๊กตู่ยืนยันระเบิดป่วนกรุงเทพไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล
- เบื้องต้นทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว และอยู่ระหว่างสอบสวน
- วอนประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วยเจ้าหน้าที่ดูความสงบของบ้านเมือง
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (5 ส.ค. 2562) ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวช่วงหนึ่ง ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ร่วมในพิธีถวายสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 132 ปี ถึงความคืบหน้าเหตุวางระเบิดป่วนกรุงเทพฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า
ขณะนี้พอทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนอยู่ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องโยงจากเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ และต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่ากดดัน
ส่วนที่มีข่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของรัฐบาลนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เพราะไม่มีใครคิดทำอย่างนั้นแน่ ซึ่งหากคิดด้วยตรรกกะรัฐบาลอยู่เฉยๆ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นคงจะดีกว่า เว้นแต่เขาทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ เพราะช่วงเวลานั้นอยู่ระหว่างมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่เป็นประเทศมหาอำนาจอยู่พอดี
“อย่ามองแต่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร หากผมอยู่เฉยๆไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดให้มันมีตรรกกะหน่อย คนที่ทำถือว่าใจร้ายใจดำ เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ คนพวกนี้ต้องถูกลงโทษ ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้า โดยรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย “
พร้อมกันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีคนนำนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐออกมาแชร์ต่อหลังเกิดเหตุวางระเบิดกรุงเทพ ทำนองว่า ‘เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่’ นั้นว่า ตนไม่ได้พูด เพราะระหว่างที่เป็นนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การที่ใครจะเลือกใครในช่วงนั้นก็เป็นเรื่องของการเมือง
อย่างไรก็ตาม ความสงบเรียบร้อยภายในประเทศจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากประชาชน ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ช่วยเป็นหูเป็นตาถ่ายรูป แจ้งเบาะแส หากเกิดเหตุไม่ชอบมาพากลขึ้น เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องของทุกคน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีน้อย มีประมาณ 3 แสนคน จะให้ดูแลคน 70 ล้านคนได้ทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน