พรรคภูมิใจไทย เลือดตั้ง 62

‘อนุทิน’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศพร้อมเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีปิดท้ายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ เรียกร้องขอให้ประชาชนสนับสนุนว่าผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทยให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง และหากพรรคได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่ง ก็พร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำทีมของพรรคทลายอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งยืนยันนโยบายที่ประกาศในวันนี้ทุกนโยบายทำได้จริง รวดเร็ว และทำได้ทันที พร้อมยืนยัน ทุกอย่างจะทำได้จริง…

Home / NEWS / ‘อนุทิน’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศพร้อมเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีปิดท้ายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ เรียกร้องขอให้ประชาชนสนับสนุนว่าผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทยให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง และหากพรรคได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่ง ก็พร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำทีมของพรรคทลายอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งยืนยันนโยบายที่ประกาศในวันนี้ทุกนโยบายทำได้จริง รวดเร็ว และทำได้ทันที

พร้อมยืนยัน ทุกอย่างจะทำได้จริง ทำได้เร็ว และทำได้ทันที เมื่อประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขอให้เลือกให้เกิน 375 คน พรรคภูมิใจไทยจะเป็นรัฐบาล เป็นแกนนำทำความเจริญให้กับประเทศไทย และหากประชาชนให้ความไว้วางใจ ก็พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า “หมูไม่กลัวน้ำร้อนแล้ว” ตนเองจะนำสมาชิกพรรคทำลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน

สำหรับ พรรคภูมิใจไทยมีนโยบาย 4 ข้อหลัก คือ

1. เรามุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้องเป็นหลัก

2. เราปฏิเสธความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งนำมาซึ่งความยากจน และความยากลำบาก

3. พรรคภูมิใจไทย เน้น ทำมากกว่าพูด

4.พรรคต้องเคารพกติกา และเลือกยืนเคียงข้างประชาชนเท่านั้น

“เราเลือกข้างมานานแล้ว อยู่ข้างพี่น้องประชาชน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เราขอประกาศสงครามกับความแตกแยก ความยากจน และความเหลื่อมล้ำ”

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายพรรคว่า พรรคยืนยันจะทำนโยบายแบ่งปันกำไรข้าว โดยเราจะมีกองทุนข้าว ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการหลายฝ่าย แต่ฝ่ายเกษตรกรต้องมีเสียงเกินครึ่ง กองทุนดังกล่าวมีหน้าที่กำหนดการผลิต ประกันความเสี่ยง หาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไปจนถึงการจัดจำหน้าย และการแบ่งปันกำไร ยังอยู่บนหลักการ 75 10 15 หรือชาวนาได้ส่วนแบ่งจากกำไรคิดเป็น 75% โรงสีได้ 10 และผู้ส่งออก แลละพ่อค้าข้าวถุงได้ 15%

ส่วน ปัญหาหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นเหมือนเวรกรรมของพี่น้องประชาชน เราอยากเห็นลูกหลานมีการศึกษาที่ดี มีงานมีการทำ แต่เพราะความจนทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน เป็นหนี้ กยศ. แถมยังตกงาน ดังนั้น เมื่อไม่มีงานทำ เลยไม่มีเงินไปใช้หนี้ ที่ผ่านมาตนพบว่า ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ กยศ.นั้นแพงเกินไปกว่า 18% แถมทาง กยศ.ยังต้องเสียเงินค่าจ้างทนายรายละ 1 หมื่นบาทอีกด้วย

ทั้งนี้ การศึกษาถือว่าเป็นการพัฒนาประเทศ จะคิดแบบธุรกิจไม่ได้ เราไม่สมควรคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจะแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ด้วยการไม่คิดดอกเบี้ย ยกเลิกเบี้ยปรับ 18% เป็น 0% และปลดภาระผู้ค้ำประกัน อีกทั้งให้ผ่อนคืน 10 ปี รวมถึงการพักหนี้ 5 ปี เพื่อให้โอกาสเยาวชนเรียนเพิ่มเติม ด้วยการเรียนฟรีตลอดชีวิตจากระบบออนไลน์ หรือ Thailand Sharing University

ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย ยังมีนโยบายจะยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เพื่อยกระดับสุขภาพของชาวชุมชน เพิ่มค่าตอบแทน 2,500-10,000 บาท และผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเพิ่มศักยภาพของ อสม. ให้กลายเป็นหมอประจำบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นต้นทางของการรักษา ทางพรรคภูมิใจไทยจึงเตรียมร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว

“ปัญหาหลักทั้ง 3 ด้านคือ เรื่องการเกษตร เรื่องการศึกษา และเรื่องสาธารณสุข ที่กล่าวมาข้างต้น หลายคนอาจสงสัยว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำได้หรือไม่ ผมอยากให้ดูการเจริญเติบโตของจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ก่อนเป็นจังหวัดที่ยากจนและแห้งแล้ง ทุกวันนี้กลายเป็น “บุรีรัมย์โมเดล” เมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย ที่มีคนมาเที่ยวมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี มันเป็นความจริงไปแล้ว” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม ยังนำเสนอนโยบายกัญชาเสรี โดยชี้ให้เห็นประโยชน์ของกัญชา ซึ่งซื้อขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 17,000 บาท และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมหาศาล ที่สำคัญกัญชาไทยก็มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน พรรคภูมิใจไทยจะผลักดันกัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจต่อไป